มีรูปแบบคือ
if [EXPRESSION]; then CODE IF 'EXPRESSION' IS TRUE. [elif [EXPRESSION-ELIF]; then CODE IF 'EXPRESSION-ELIF' IS TRUE.] [else CODE IF NOTHING IS TRUE.] fi
if ... then
#!/bin/bash if [ "foo" = "foo" ]; then echo expression evaluated as true fi
โค๊ดนี้จะเป็นจริงเสมอ ดังนั้นข้อความ "expression evaluated as true
" จะถูกพิมพ์ออกมาเสมอ
if ... then ... else
#!/bin/bash if [ "foo" = "foo" ]; then echo expression evaluated as true else echo expression evaluated as false fi
โค๊ดนี้จะเป็นจริงเสมอ ดังนั้นข้อความ "expression evaluated as true
" จะถูกพิมพ์ออกมาเสมอ
#!/bin/bash T1="foo" T2="bar" if [ "$T1" = "$T2" ]; then echo expression evaluated as true else echo expression evaluated as false fi
ตัวอย่างนี้จะเป็นเท็จเสมอ
สังเกตุการใช้ตัวแปรในการเปรียบเทียบ ควรให้ตัวแปรอยู่ในเครื่องหมายคำพูดเสมอ เพื่อป้องการการผิดพลาดจากการแทนค่าที่ซับซ้อน หรือการที่มีช่องว่างในค่าตัวแปร