อนุทฺทยา : อิต. ความเอ็นดู, ความเอื้อเฟื้อ
อนุทยาอนุทฺทยา : (อิต.) ความกรุณา, ความปราณี, ความเอ็นดู.วิ.อนุทยติปรทุกฺขํ, อตฺตสุขญฺจหึสตีติอนุทยาอนุทฺทยาวา.อนุปุพฺโพ, ทยฺ ทานคติหึสาทาเนสุ, อ.
อนุทยา อนุทฺทยา : (อิต.) ความกรุณา, ความปราณี, ความเอ็นดู. วิ. อนุทยติ ปรทุกฺขํ, อตฺตสุขญฺจ หึสตีติ อนุทยา อนุทฺทยา วา. อนุปุพฺโพ, ทยฺ ทานคติหึสาทาเนสุ, อ.
อนุธมฺมตา : อิต. ความเป็นธรรมอันสมควร, ความเป็นจริงตามธรรมชาติ
อนุนย : (ปุ.) ความไปตาม, ความพอใจ.อนุปุพฺโพ, นยฺนยเน, อ.
อนุปฏิปาฏิ, - ติ : อิต. ลำดับ, ความสืบต่อ
อนุปฏิปาฏิยา : ก. วิ. ตามลำดับ, โดยความสืบเนื่องกัน
อนุปติตตฺต : นป. ความเป็นผู้ถูกจู่โจมหรือติดตาม
อนุปนาห : ป. ความไม่ผูกโกรธ
อนุปนิรส : ค. ไม่มีเหตุใกล้ชิด, ไม่มีความแน่วแน่
อนุปพนฺธนตา : อิต. ความสืบต่อ, ความเป็นไปโดยไม่ขาดระยะ
อนุปพนฺธนา : อิต. ความสืบต่อ, ความเป็นไปโดยไม่ขาดระยะ
อนุปริวตฺติ : อิต. ความหมุนไปมารอบๆ; ความเกี่ยวข้องด้วย
อนุปริสกฺกน : นป. การเวียนรอบ, การตะเกียกตะกาย; ความพยายาม
อนุปวิฏฺฐตา : อิต. ความเป็นผู้เข้าไปตาม, ความเป็นของไหลเข้าไป
อนุปสณฺฐปนา : อิต. ไม่หยุดอยู่, ความเป็นไปไม่ขาดระยะ
อนุปสฺสนา : (อิต.) การตามเห็น, การเพ่งเล็ง, การพิจารณา, การพิจารณาเห็น, การพิจารณาเนืองๆ, ความตามเห็น, ฯลฯ, อนุปัสสนาพิจารณาด้วยปัญญา, ปัญญา.อนุปสฺสนาวุจฺจติปญฺญา.ไตร. ๓๐/๘๐/๑๖๐.
อนุปาทาน : ค. ไม่มีอุปทาน, ไม่มีความยึดมั่น
อนุปาทานิย : ค. ผู้ไม่มีความยึดมั่น
อนุปายาส : ค. อันไม่มีความคับแค้นใจ
อนุปาล : (ปุ.) การตามเลี้ยง, การตามรักษา, การตามระวัง, การคอยรักษา, การคอยระวัง.เรียกโรงเรียนที่รับเด็กก่อนเข้าเกณฑ์ประถมศึกษาว่าโรงเรียนอนุบาล เรียกเด็กที่เรียนว่าเด็กอนุบาล (เด็กที่ครูต้องคอยระวัง).
อนุปิย : ๑. นป. ความพอใจ; การประจบสอพลอ;
๒. ค. อันพอใจ; ซึ่งประจบสอพลอ
อนุปุพฺพตา : อิต. ความเป็นลำดับ, ความสืบต่อ
อนุปุพฺพนิโรธ : (ปุ.) ความดับโดยลำดับ.
อนุโพธ : ป. ความตรัสรู้ตาม, ความเข้าใจตาม
อนุภวน : (นปุ.) การเสวย, ความเสวย, ความประสบ, ความรู้สึก.
อนุภาว : ป. อานุภาพ, กำลังอำนาจ, ความยิ่งใหญ่
อนุภาวตา : อิต. ความเป็นผู้มีอานุภาพ, ความเป็นผู้มีอำนาจ
อนุภาวอานุภาว : (ปุ.) อำนาจ, กำลัง, อนุภาพ, อานุภาพ (ความสง่า).ส. อนุภาว.
อนุภาว อานุภาว : (ปุ.) อำนาจ, กำลัง, อนุภาพ, อานุภาพ (ความสง่า). ส. อนุภาว.
อนุภูยมานตฺต : นป. ความเป็นผู้ถูกกิน, ความเป็นผู้ถูกเสพ, ความเป็นผู้ถูกเสวย
อนุมัติ : (อิต.) ความรู้ตาม, ความเห็นชอบตาม, ความเห็นดีตาม, ความยอมตาม, ความยินยอม, การอนุญาต.ส. อนุมัติ.
อนุมาน : (ปุ. นปุ.) ความนับตาม, ความกำหนดตาม, การตามกำหนด, การหมั่นกำหนด, การคาดหมาย, การคาดคะเน, ความนับตามฯลฯ.ส. อนุมาน.
อนุโมทก : ค. ผู้อนุโมทนา, ผู้แสดงความยินดี
อนุโมทติ : ก. อนุโมทนา, ชื่นชม, แสดงความยินดี
อนุโมทน : นป. การอนุโมทนา, การแสดงความชื่นชม, การแสดงความยินดี
อนุโมทนา : (อิต.) กถาเป็นเครื่องดำเนินตาม, วาจาเป็นเครื่องกล่าวด้วยสามารถแห่งอันบันเทิงตาม, ความยินดีตาม, ความยินดีด้วยความพลอยยินดี, ความเบิกบานใจ, อนุโม-ทนา (ความพลอยยินดีด้วยกับความดีของคนอื่น).ส.อนุโมทนา.
อนุยายี : (วิ.) มีความหวั่นใจ, ผู้ติดตาม.
อนุโยค : (ปุ.) วาทะเครื่องประกอบตาม, วาทะเครื่องตามประกอบ, การซักไซ้, การซักถาม, คำถาม, การถาม, การประกอบความเพียร.ส. อนุโยค.
อนุรกฺข : (ไตรลิงค์) การถนอมตาม, การตามถนอม, การตามระวัง, การตามรักษา.ส.อนุรุกฺษ.
อนุโรธนา : (อิต.) ความคล้อยตาม ฯลฯ.
อนุโรธนา ป : (ปุ.) ความคล้อยตาม ฯลฯ.
อนุวชฺช : ค. ความตำหนิ, การกล่าวโทษ
อนุวตฺตน : นป. การอนุวัตรตาม, ความคล้อยตาม
อนุวตฺตอนุวตฺตน : (นปุ.) ความคล้อยตาม, ความผ่อนตาม, ความเป็นไปตาม, ความเป็นไปสมควร, ความสมควร.ส.อนุวรฺตน.
อนุวตฺต อนุวตฺตน : (นปุ.) ความคล้อยตาม, ความผ่อนตาม, ความเป็นไปตาม, ความเป็นไปสมควร, ความสมควร. ส.อนุวรฺตน.
อนุวิจฺฉา : (อิต.) ความอยากบ่อยๆ, ความอยากร่ำไป.อนุปุพฺโพ, อิสุอิจฺฉายํ, อแปลงทฺยเป็นชฺชกสกัด.
อนุสนฺธิ : (อิต.) วาจาเป็นเครื่องต่อตาม, กถาเป็นเครื่องต่อตาม, ความต่อตาม, การต่อเนื่อง, การสืบเนื่อง, การต่อตามลำดับ, การติดต่อ, การต่อ.อนุสํบทหน้าธาธาตุอิปัจ.ส.อนุสํธิ.
อนุสมฺปวงฺกตา : (อิต.) ความเป็นแห่งบุคคลผู้คล้อยตาม.
อนุสย : (ปุ.) ความเดือดร้อนในภายหลัง(ปจฺฉาตาป), ความเดือดร้อนใจ (วิปฺปฏิสาร)ความติดตาม (อนุพนฺธ), ความเป็นไปบ่อยๆ, ความเป็นไปเสมอ (ปุนปฺปุนํ ปวตฺตนํ), ธรรมเป็นที่นอนตาม, อนุสัย.วิ.สนฺตาเนอนุเสนฺตีติอนุสยา.อนุรูปํการณํลภิตฺวาเสนฺติอุปฺปชฺชนฺตีติวาอนุสยา.อนุเสตีติวาอนุสโย.สิสีวาสเย, อ.อนุสัยเป็นชื่อของกิเลสอย่างละเอียดมี ๗ คือกามราคะปฏิฆะทิฏฐิวิจิกิจฉามานะภวราคะและอวิชชาซึ่งนอนเนื่องอยู่ในสันดานของสัตว์ทั้งหลายเป็นเชื้อนอนนิ่งอยู่เมื่อไม่มีอารมณ์มากระทบอายตนะภายในก็ดูเหมือนเป็นคนไม่มีกิเลสแต่ความจริงอนุสัยทั้ง ๗ มีอยู่ จะเรียกคนอย่างนี้ว่านิพพานชั่วขณะไม่ได้ คำนิพพานที่ใช้ในพระพุทธศาสนาพระบรมศาสดาตรัสเรียกเฉพาะผู้ที่ละกิเลสอย่างละเอียดทั้ง ๗ นี้ได้สิ้นเชิงเป็นสมุจเฉทฉะนั้น จะเรียกคนที่มีกายวาจาและใจดูเรียบร้อย แต่ใจยังมีอนุสัย ๗ อยู่ แม้ผู้นั้นจะได้ฌานชั้นใดชั้นหนึ่งหรือทั้ง ๘ ชั้นก็ตามว่านิพพานชั่วขณะไม่ได้.อนุสัย ๗ นี้ละได้ด้วยปัญญา (วิปัสสนา) อย่างเดียว.ส.อนุศย.