อมฺพา : (อิต.) แม่เป็นคำเรียกหญิงด้วยความยกย่อง.แม่เรียกหญิงผู้ให้บุตรเกิด.วิ.ปุตฺเตนอมียตีติอมฺพา.อมฺคมเน, โพ.อม ปูชายํวา.อถวา, อพิสทฺเทสาทเน วาอ, นิคฺคหิตาคโม.ส.อมฺพา.
อมม : ค. ไม่ยึดถือสิ่งใดว่าเป็นของของตน, ไม่เข้าข้างตัว
อมฺมณ : (นปุ.) อัมมณะชื่อมาตราตวง๑๑ โทณะเป็น ๑ อัมมณะ.อมฺคมเน, อมฺภฺสทฺเทวา, ยุ.
อมฺม, อมฺมา : ๑. อ. แน่ะแม่, ข้าแต่แม่ ; เป็นคำร้องเรียกหญิงที่สนิทกัน เช่น แม่มหาจำเริญ ;
๒. อิต. แม่
อมรตฺต : นป. ความเป็นคืออันไม่ตาย, อมฤตภาพ
อมรวตีอมราวตี : (อิต.) อมรวดีอมราวดีชื่อเมืองของพระอินทร์เมือง ๑ ใน ๓ เมือง.วิ.อมราเอกทิวสํสนฺตีติอมรวตี.สาเอวอมราวตี.รสฺสสฺสทีฆตา (ทีฆะรัสสะเป็นอา).
อมรินฺท : (วิ.) ผู้เป็นใหญ่กว่าเทวดา, ผู้เป็นจอมแห่งเทวดา, ผู้เป็นนายของเทวดา.
อมฺห : (ปุ. อิต.) ฉัน, ข้า, กู, ฯลฯ.คำแทนตัวภิกษุแปลว่าอาตมภาพ, อาตมา, รุป.ลูกพูดกับพ่อแม่แปลว่าลูก, หนู.หญิงพูดกับคนใกล้ชิดหรือคุ้นเคยหรือ คนรักแปลว่าหนูชายพูดกับหญิงที่รักแปลว่าเรียม, พี่. อมฺหศัพท์เป็นคำแทนตัวผู้พูดบาลีไวยากรณ์เป็นบุรุษที่๓ไวยากรณ์ไทยเป็นบุรุษที่๑.
อมหคฺคต : ค. (จิต) ไม่ถึงความเป็นใหญ่
อมฺหมย : (วิ.) สำเร็จแล้วด้วยหิน, เป็นวิการแห่งหิน.อสฺม+มยปัจ.แปลงสฺมเป็นมฺห.
อมฺหา : ๑. อิต. แม่โค ;
๒. ก. (เรา) มีอยู่, เป็นอยู่
อมฺหิ : ก. (ข้า) มีอยู่, เป็นอยู่
อมามก : ค. ไม่ใช่ของเรา, ไม่เป็นของเรา
อมุขร : ค. ไม่เป็นผู้ปากกล้า, ไม่เจรจาหยาบคาย
อมุตร : (อัพ. นิบาต) ภพอื่น, ภพหน้า, ภายหน้าข้างหน้า, ข้างโน้น.เป็นภวันตรัตถวาจก-นิบาต.ในที่อื่น, ฯลฯ, ในที่โน้นเป็นนิบาตลงในอรรถสัตตมี.
อมูฬฺหวินย : (ปุ.) อมูฬหวินัยชื่อวิธีระงับอธิ-กรณ์อย่างหนึ่งในเจ็ดอย่างถ้ามีภิกษุเป็นบ้าเมื่อหายบ้าแล้วสงฆ์จะสวดประกาศมิให้ใครโจทท่านด้วยอาบัติที่ท่านทำขณะเป็นบ้าเรียกว่าอมูฬหวินัย.
อเมชฺฌ : (วิ.) ไม่สะอาด, ไม่หมดจด, ไม่เป็นมงคล.
อโมสธมฺม : ป. ธรรมที่ไม่เลอะเลือน, ความไม่เลอะเลือนเป็นธรรมดา
อยน : (นปุ.) การไป, การถึง, ความเป็นไป, ทาง, หนทาง, ถนน.อยฺคติยํ, ยุ.ส. อยน.
อยฺย : (วิ.) เป็นเจ้า, เป็นใหญ่.
อยฺยก : (ปุ.) ตา, ปู่. อรหฺปูชายํ, ณฺวุ, รหสฺสโย(แปลงรหเป็นย). อยฺคติมฺหิวา. ซ้อน ยฺ.
อยฺยกาอยฺยกีอยฺยิกาอยฺยกานี : (อิต.) ย่า, ยายรูปฯ ๑๘๙ว่าอยฺยกศัพท์เป็นต้นเมื่อลงอีปัจ. (การันต์) เบื้องปลายให้เอาอที่สุดของศัพท์เป็นอาน.
อยฺยกา อยฺยกี อยฺยิกา อยฺยกานี : (อิต.) ย่า, ยาย รูปฯ ๑๘๙ ว่า อยฺยก ศัพท์เป็นต้น เมื่อลง อี ปัจ. (การันต์) เบื้องปลายให้เอา อ ที่สุด ของศัพท์เป็น อาน.
อยาถาว : ค. อันไม่จริง, ไม่เป็นตามจริง
อยิร : (วิ.) เป็นใหญ่ยิ่ง.รแปลว่าเป็นใหญ่, เป็นประธาน.อภิ+รแปลงภฺเป็นปฺ ปฺเป็นยฺ.เป็นเจ้า, เป็นใหญ่.อยฺย+อิรปัจ.ลบยฺสังโยค.
อยุตฺตอยุตฺตก : (ปุ.) นายส่วย.คือคนที่เก็บของจากพื้นเมืองส่งเป็นภาคหลวง.
อยุตฺต อยุตฺตก : (ปุ.) นายส่วย. คือคนที่เก็บของ จากพื้นเมืองส่งเป็นภาคหลวง.
อโยปฏล : นป. หลังคาหรือเพดานทำเป็นแผ่นเหล็ก (ในนรก)
อโยพฺพน : ค. ไม่เป็นหนุ่มสาว
อรญฺญกตฺต : นป. ความเป็นผู้อยู่ในป่า, การถืออยู่ในป่าเป็นวัตร
อรญฺญวาสี : (วิ.) ผู้อยู่ในป่าโดยปกติ, ผู้อยู่ในป่าเป็นปกติ, ผู้มีปกติอยู่ในป่า.วิ.ดูธมฺมจารีเทียบ.ผู้มีการอยู่ในป่าเป็นปกติวิ.อรญฺเญวาโสสีโลอสฺสาติอรญฺญวาสี.อีปัจ.ตทัสสัตถิตัท.
อรญฺญานี : (อิต.) ป่าไม้ใหญ่, ป่าใหญ่, ดง.เมื่อลงอีอิต. ให้เอาอที่ญเป็นอาน.
อรญฺญิก : (วิ.) ผู้มีการอยู่ในป่าเป็นปกติ, ผู้มีการอยู่ในป่าเป็นวัตร.วิ.อรญฺเญวสนํสีลมสฺ-สาติอรญฺญิโก.อรญฺเญวาวสนสีโลอรญฺญิโก.ผู้อยู่ในวิหารอันตั้งอยู่ในป่าวิ.อรญฺเญปติฏฺฐวิหาเรวสตีติอรญฺญิโก.มีอยู่ในป่าวิ.อรญฺเญอตฺถีติอรญฺญิโก อรญฺเญภโววาอรญฺญิโก.ตั้งอยู่ในป่าวิ.อรญฺเญติฏฺฐตีติอรญฺญิโก.อิกปัจ.ตทัสสัตถิตัท.
อรหตฺต : (นปุ.) ความเป็นแห่งพระอรหันต์, คุณเครื่องเป็นพระอรหันต์, ความเป็นพระอร-หันต์, อรหัตผล.อรหนฺต+ตฺตปัจ.ภาวตัทลบนฺต.วิ.อรหโตภาโวอรหตฺตํ.
อรหตฺตคหณ : นป. การถือเอาความเป็นพระอรหันต์, การบรรลุความเป็นอรหันต์
อรหตฺตผล : นป. อรหัตผล, ผล คือ การสำเร็จเป็นพระอรหันต์
อรหตฺตมคฺค : ป. อรหัตมรรค, ทางดำเนินไปสู่ความเป็นพระอรหันต์
อรหตฺตมคฺคญาณาสิ : (ปุ.) ดาบคือญาณอันสัม-ปยุตแล้วด้วยมรรคอันเป็นไปในพระอรหัต.
อรหนฺต : (ปุ.) พระอรหันต์.วิ.สํสารจกฺกสฺสอเรหตวาติอรหาอรหํวา(ผู้ขจัดเสียซึ่งซี่แห่งสังสารจักร).อคฺคทกฺขิเณยฺยภาเวณปูชนํอรหตีติอรหา(ผู้ควรซึ่งการบูชาเพราะความเป็นพระทักขิเณยยบุคคลผู้เลิศ).กิเลสารโยมคฺเคนหนีติ อรหา (ผู้กำจัดข้าศึกคือกิเลสท.ด้วยมรรค).นสนฺติเอตสฺสรหาติอรหา (ผู้ไม่มีปาบธรรม).นตฺถิ เอตสฺสรโหคมนํคตีสุปจฺจาชาตีติอรหํ.
อรหนฺตี : (อิต.) หญิงผู้เป็นพระอรหันต์.พระอรหันต์หญิง
อรินฺทม : (วิ.) ผู้ข่มข้าศึกวิ.อรึทมตีติอรินฺท-โม.อริปุพฺโพ, ทมฺทมเน, นุอาคโม.แปลงนุเป็นนิคฺคหิตแล้วแปลงเป็นนฺ.
อริยก : (ปุ.) อริยกะชนชาติอริยกะชื่อชนผู้เป็นต้นตระกูลของพระพุทธเจ้าซึ่งอพยพมาจากตอนเหนือข้ามภูเขามาอยู่ตอนเหนือของชม-พูทวีปคือประเทศอินเดีย (ปัจจุบันแยกออกเป็นหลายประเทศ)
อริยกนฺต : ค. ยินดี, พอใจ, ซึ่งพอใจในความเป็นอริยะ, อันพระอริยะใคร่แล้ว
อริยปุคฺคล : (ปุ.) บุคคลผู้เจริญ, บุคคลผู้ประเสริฐ, พระอริยบุคคล, ทางพระพุทธศาสนาเรียกบุคคลที่ละกิเลสได้เด็ดขาด (สมุจเฉทป-หาน)ไม่กำเริบอีกเป็นขั้น ๆว่าพระอริย-บุคคล ๆ มี ๔ ชั้นตามที่ละกิเลสได้คือพระโสดาบันพระสกทาคามีพระอนาคามีและพระอรหันต์เป็นชั้นสูงสุดทางพระ-พุทธศาสนา ไม่มีพระอริยบุคคลชั่วขณะหรือชั่วคราวหรือพระอริยบุคคลแต่งตั้งหรือนิพพานชั่วขณะ.
อริยมคฺค : (ปุ.) ทางอันประเสริฐ, ทางอันยังผู้ปฏิบัติให้เป็นพระอริยบุคคล, ทางของพระอริยะ.
อริยวสปฏิปทาทิ : (วิ.) มีปฏิปทาอันเป็นไปตามซึ่งวงศ์แห่งพระอริยะเป็นต้น.
อริยสฆอริยสงฺฆ : (ปุ.) หมู่แห่งพระอริยะ.วิ.อริยานํสงฺโฆสมูโหอริยสงฺโฆ.สงฆ์ผู้เป็นอริยะวิ. อริโยสงฺโฆอริยสงฺโฆ.
อริยสจฺจ : (นปุ.) ความจริงอันประเสริฐ, ความจริงอย่างประเสริฐ, ความจริงอันยังปุถุชนให้เป็นพระอริยะ, ความจริงอันยังปุถุชนผู้ปฏิบัติตามมรรค ๘ ให้เป็นอริยะ, ความจริงของพระอริยะ, อริยสัจชื่อของหมวดธรรมหมวดหนึ่งซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสรู้ มี ๔ข้อคือ ๑.ทุกข์๒. ทุกขสมุทัย๓. ทุกขนิโรธและ ๔. ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.ไตร.๓๕/๑๔๔.
อริยสาวก : (ปุ.) สาวกผู้ประเสริฐ, สาวกผู้เลิศ, สาวกผู้เป็นอริยะ, พระอริยสาวก.
อริยสาวิกา : อิต. อริยสาวิกา, สาวกที่เป็นหญิงของพระอริยะ