อบายมุข : [อะบายยะมุก] น. ทางแห่งความฉิบหาย, เหตุแห่งความ ฉิบหาย, มี ๒ หมวด คือ อบายมุข ๔ ได้แก่ ๑. เป็นนักเลงหญิง ๒. เป็นนักเลงสุรา ๓. เป็นนักเลงเล่นการพนัน ๔. คบคนชั่วเป็นมิตร กับ อบายมุข ๖ ได้แก่ ๑. ดื่มนํ้าเมา ๒. เที่ยวกลางคืน ๓. เที่ยวดูการเล่น ๔. เล่นการพนัน ๕. คบคนชั่วเป็นมิตร ๖. เกียจคร้านทําการงาน. (ป.).
อบาย, อบาย : [อะบาย, อะบายยะ] น. ที่ที่ปราศจากความเจริญ; ความฉิบหาย. (ป.).
อป : [อะปะ] คําประกอบหน้าศัพท์ที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤต มีความหมายว่า ไม่, ปราศจาก, เช่น อปมงคล = ไม่เป็นมงคล, ปราศจากมงคล. (ป., ส.).
อปการ : [อะปะกาน] น. ความผิด, โทษ; การทําร้าย, การดูถูก. (ส.).
อปจายน : [อะปะจายะนะ] น. การแสดงความเคารพ, การนับถือ, การนอบน้อม. (ป., ส.).
อปจายนธรรม : น. การแสดงความเคารพ, การนับถือ, การนอบน้อม, การถ่อมตน. (ป. อปจายนธมฺม).
อประมาท, อัประมาท : [อะปฺระหฺมาด, อับปฺระหฺมาด] น. ความไม่มึนเมา; ความไม่เลินเล่อ, ความระวัง, ความเอาใจใส่. (ส.; ป. อปฺปมาท).
อปราชัย, อัปราชัย : [อะปะ, อับปะ] น. ความไม่แพ้, ความชนะ; (กลอน) บางทีใช้ หมายความว่า แพ้ เช่น คบคนดีเป็นศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย. (ป.).
อปราธ : [อะปะราทะ] น. ความผิด, โทษ. (ป., ส.).
อภว : [อะภะวะ] น. ความไม่มี, ความเสื่อม, ความเสียหาย. (ป., ส.).
อภัยทาน : [อะไพยะทาน] น. การให้ความไม่มีภัย เช่น ให้อภัยทาน. ว. ที่ให้ความไม่มีภัย เช่น เขตอภัยทาน. (ป.).
อภัย, อภัย : [อะไพ, อะไพยะ] น. ความไม่มีภัย, ความไม่ต้องกลัว. (ป., ส.), นิยมใช้ประกอบกับคําอื่น เช่น ขออภัย หมายความว่า ขอให้ยกโทษ ให้ขออย่าได้ถือโทษ, ให้อภัย หมายความว่า ยกโทษให้. ก. ยกโทษ เช่น ฉันอภัยให้เธอ.
อภิจฉา : [อะพิดฉา] น. ความทะเยอทะยาน, ความกระวนกระวาย. (ป.).
อภิชฌา : [อะพิดชา] น. ความโลภ, ความอยากได้. (ป.).
อภิชัย : น. ความชนะ; การปราบปราม. (ป., ส.).
อภิญญา, อภิญญาณ : [อะพินยา, อะพินยาน] น. ''ความรู้ยิ่ง'' ในพระพุทธศาสนามี ๖ อย่าง คือ ๑. อิทธิวิธิ การแสดงฤทธิ์ได้ ๒. ทิพโสต หูทิพย์ ๓. เจโตปริยญาณ ญาณรู้จักกําหนดใจผู้อื่น ๔. ปุพเพนิวาสานุสติญาณ การระลึกชาติได้ ๕. ทิพจักขุ ตาทิพย์ ๖. อาสวักขยญาณ ญาณรู้จักทําอาสวะให้สิ้นไป. (ป.; ส. อภิชฺ?า, อภิชฺ?าน).
อภินันทนาการ : น. ความยินดียิ่ง เช่น ด้วยอภินันทนาการ หมายถึง ให้ด้วยความยินดียิ่ง. (ป. อภินนฺทน + อาการ).
อภินันท, อภินันท์ : น. ความยินดียิ่ง, ความดีใจยิ่ง. (ป., ส.).
อภิปรัชญา : [อะพิปฺรัดยา, อะพิปฺรัดชะยา] น. ปรัชญาสาขาหนึ่ง ว่าด้วยความ แท้จริง ซึ่งเป็นเนื้อหาสําคัญของปรัชญา. (อ. metaphysics).
อภิปราย : [อะพิปฺราย] ก. พูดชี้แจงแสดงความคิดเห็น. (ส. อภิปฺราย).
อภิมานะ : น. ความเย่อหยิ่ง, ความถือตัว. (ป., ส.).
อภิรดี, อภิรติ : [อะพิระ] น. ความรื่นรมย์ยินดียิ่ง (มักใช้ในเรื่องรักใคร่). (ป., ส.).
อภิสมโพธิ, อภิสัมโพธิ : [อะพิสมโพด, สําโพทิ] น. ความตรัสรู้เองด้วยพระปัญญาอันยิ่ง หมายเฉพาะการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า. (ป.).
อภิสมัย : [อะพิสะไหฺม] น. ความตรัสรู้, ความบรรลุ, การถึง, ใช้ในคําว่า ธรรมาภิสมัย. (ป., ส.).
อภิสมาจาร : [อะพิสะมาจาน] น. มารยาทอันดี, ความประพฤติอันดี. (ป., ส.).
อภิสัมโพธิญาณ : [อะพิสำโพทิยาน] น. ญาณคือความตรัสรู้เองด้วยพระปัญญาอันยิ่ง หมายเฉพาะการตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า.
อมความ : ก. เก็บใจความสําคัญ, ใช้ถ้อยคำน้อยแต่เก็บความสำคัญไว้ ได้มาก; (โบ) จำไว้ในใจ, จำใจความได้.
อมทุกข์ : ว. มีความทุกข์สุมอยู่ เช่น หน้าตาอมทุกข์.
อมพระมาพูด : (สำ) ใช้ในการพูดโดยอ้างพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มา ประกอบเป็นพยาน มักใช้ในความปฏิเสธ เช่น ต่อให้อมพระมาพูด ก็ไม่เชื่อ.
อมภูมิ : [พูม] ก. ไม่ยอมแสดงความรู้ทั้ง ๆ ที่มีความรู้ บางทีใช้ หมายถึงทำท่าทางคล้าย ๆ รู้ แต่ความจริงไม่รู้ เช่น ทำเป็นอมภูมิ.
อมฤตยู : [อะมะรึดตะ] น. ความไม่ตาย. (ส.).
อย่า : [หฺย่า] ว. คําประกอบกริยาบอกความห้ามหรือไม่ยอมให้ทําการ ต่าง ๆ.
อย่าง : [หฺย่าง] น. วิธี, แบบ, เยี่ยง, เช่น ทำอย่างนี้ เขียนอย่างนั้น, ลักษณนาม บอกจำนวน หมายถึง ชนิด, สิ่ง, เช่น ทำกับข้าวไว้ ๒ อย่าง ทำงาน หลายอย่าง. ว. เหมือน เช่น อย่างใจ อย่างเคย, ใช้ประกอบคําวิเศษณ์ หมายความว่า โดยอาการที่ เช่น อย่างดี อย่างเข้มแข็ง.
อย่างไร : ว. ใช้ในประโยคคําถาม ถามถึงความเป็นไป ความเป็นอยู่ เช่น คนไข้มีอาการอย่างไร หมู่นี้เป็นอย่างไรบ้าง, ถามถึงวิธีหรือ ความเห็นเป็นต้น เช่น จะทําอย่างไร มีความเห็นอย่างไร; ถ้าใช้ใน ประโยคที่ไม่เป็นคําถาม หมายความว่า จะโดยวิธีใด ๆ ก็ตาม เช่น ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มา.
อยู่ดีกินดี : ว. มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย.
อยู่ดีไม่ว่าดี : (สำ) ว. แทนที่จะอยู่เฉย ๆ กลับทำสิ่งที่ก่อให้เกิดความ เดือดร้อนแก่ตน เช่น อยู่ดีไม่ว่าดีขอลูกเขามาเลี้ยง.
อยู่ไปมา : ว. อาการที่ทำต่อเนื่องกันหลายหนหรือเรื่อย ๆ ไป เช่น ยิ้มอยู่ไปมา โบกมืออยู่ไปมา.
อยู่ไฟ : ก. นอนใกล้ไฟโดยเชื่อว่าความร้อนจะทําให้มดลูกเข้าสู่ภาวะ ปรกติได้เร็วหลังคลอดลูกแล้ว.
อยู่แล้ว : ว. แย่แล้ว เช่น เอะกูอยู่แล้วนะเสนี เห็นไพรีจะมากมาย หลายหมื่น. (สังข์ทอง).
อรดี, อรติ : [อะระ] น. ความไม่ยินดี, ความไม่พอใจ, อราดี หรือ อราติ ก็ใช้. (ป., ส.).
อรรถกถา : [อัดถะกะถา] น. คัมภีร์ที่อธิบายความพระบาลี, คัมภีร์ ที่ไขความพระไตรปิฎก. (ส. อรฺถ + กถา; ป. อตฺถกถา, อฏฺ?กถา).
อรรถกวี : [อัดถะกะวี] น. กวีผู้มีความสามารถในการแต่งร้อยกรอง ตามความเป็นจริง.
อรรถบท : [อัดถะบด] น. แก่นเรื่อง, เนื้อความ, หัวข้อ, สาระ.
อรรถปฏิสัมภิทา : [อัดถะ] น. ปฏิสัมภิทา ๑ ใน ๔ อย่าง คือ ๑. อรรถปฏิสัมภิทา ๒. ธรรมปฏิสัมภิทา ๓. นิรุตติปฏิสัมภิทา ๔. ปฏิภาณปฏิสัมภิทา หมายถึง ปัญญาอันแตกฉานในอรรถ คือ ความเข้าใจที่สามารถคาดหมายผลข้างหน้าอันจะเกิดสืบเนื่องไป จากเหตุ, ความเข้าใจอธิบายอรรถแห่งภาษิตย่อให้พิสดาร. (ป.).
อรรถรส : [อัดถะรด] น. รสแห่งถ้อยคํา, ถ้อยคําที่ทําให้เกิดความ ซาบซึ้ง, ถ้อยคําที่ทําให้เกิดอารมณ์สะเทือนใจ.
อรรถ, อรรถ : [อัด, อัดถะ] น. เนื้อความ เช่น แปลโดยอรรถ, คําที่ยังไม่ได้ แปลความหมาย เช่น คําอรรถ. (ส. อรฺถ; ป. อตฺถ).
อรรถาธิบาย : ก. ขยายความ, อธิบายความ. น. การขยายความ, การอธิบายความ.
อรหัตวิโมกข์ : น. ความพ้นจากกิเลสเพราะสําเร็จอรหัต. (ป. อรหตฺตวิโมกฺข).
อรหัต, อรหัต : [อะระหัด, ออระหัด, อะระหัดตะ, ออระหัดตะ] น. ความเป็น พระอรหันต์. (ป. อรหตฺต; ส. อรฺหตฺตฺว).
อราดี, อราติ :
น. ความไม่ยินดี, ความไม่พอใจ. (ป. อรติ). (ดู อรดี).