ชีรณ, ชีรณะ : [ชีระนะ] ว. เก่า, แก่, ชํารุด, ยุ่ย, ย่อย, โบราณ เช่น ชีรณกถา ว่า นิทานโบราณ, ชีรณฎีกา ว่า ฎีกาโบราณ. (ป., ส.).
ชีรณัคคิ [ชีระนักคิ] : น. ไฟธาตุที่ทําอาหารให้ย่อย, ชิรณัคคิ ก็ว่า. (ส. ชีรณ + ป. อคฺคิ).
ชีระ ๑ : (แบบ) ว. แก่, ครํ่าคร่า, ชํารุด. (ป.).
ชีว, ชีวะ : [ชีวะ] น. ชีพ, ความเป็นอยู่; พระพฤหัสบดี เช่น ชีววาร. (ป., ส.).
ชีวันตราย : น. อันตรายต่อชีวิต, อันตรายถึงตาย. (ป., ส.).
ชีวิต : น. ความเป็นอยู่, ตรงข้ามกับ ความตาย. (ป., ส.).
ชีวิตินทรีย์ : น. ชีวิต. (ป., ส.).
ชุณห : [ชุนหะ] (แบบ) ว. ขาว, สว่าง. (ป.).
ชุณหปักษ์ : น. ข้างขึ้น. (ป. ชุณฺหปกฺข; ส. โชฺยตฺสฺนปกฺษ).
ชุติ : (แบบ) น. ความโพลง, ความรุ่งเรือง, ความสว่างไสว; ดวงดาว. (ป.; ส. ชฺยุติ).
ชุติมา : น. ผู้มีความรุ่งเรือง. (ป.; ส. ชฺยุติมตฺ).
ชุษณปักษ์ : น. ข้างขึ้น. (ส. โชฺยตฺสฺนปกฺษ; ป. ชุณฺหปกฺข).
เชษฐ- ๑ : [เชดถะ] น. พี่ผู้เป็นใหญ่ เช่น เชษฐบุรุษ. (ป. เชฏฺฐ; ส. เชฺยษฺฐ). ว. ''เจริญที่สุด''. (ส.; ป. เชฏฺฐ), (ราชา) ถ้า ใช้ว่า พระเชษฐภคินี หมายถึง พี่สาว, ถ้าใช้ว่า พระเชษฐภาดา undefined หมายถึง พี่ชาย, ถ้าใช้ว่า พระเชษฐา หมายถึง พี่ชาย.
เชษฐ- ๒ : [เชดถะ] น. เดือนอันมีพระจันทร์เพ็ญเสวยฤกษ์เชษฐา เรียกว่า เชษฐมาสคือ เดือน ๗ ตามจันทรคติ ตกในราวเดือน มิถุนายน, ถ้าพระจันทร์เพ็ญเกี่ยวมาทางดาวฤกษ์มูลา เรียกว่า เชษฐมูลมาส. (ป. เชฏฺฐ; ส. เชฺยษฺฐ, ไชฺยษฐ).
เชษฐ- ๓, เชษฐะ : [เชดถะ] น. ดาวฤกษ์ที่ ๑๘ มี ๑๔ ดวง เห็นเป็นรูปงาช้าง หรือคอนาค เช่น อัษฐรัศนักษัตรสมบุรณยล บัญญัติเชษฐดารา. (สรรพสิทธิ์), ดาวเชษฐา ดาวงาช้าง ดาวช้างใหญ่ ดาวคอนาค หรือ ดาวแพะ ก็เรียก. (ป. เชฏฺ?า; ส. เชฺยษฺ?า).
เชาว์ : ว. เร็ว. (แผลงมาจาก ป., ส. ชว).
เชาวน์ : [เชา] น. ปัญญาหรือความคิดฉับไว, ปฏิภาณไหวพริบ. (แผลงมาจาก ป., ส. ชวน).
เชิงชายา ๒ : [เชดถา] น. ดาวฤกษ์ที่ ๑๘ มี ๑๔ ดวง เห็นเป็นรูปงาช้าง หรือคอนาค, ดาวเชิงชายะ ดาวงาช้าง ดาวช้างใหญ่ ดาวคอนาค หรือ ดาวแพะ ก็เรียก. (ป. เชฏฺ?า; ส. เชฺยษฺ?า).
โชดก : น. ผู้รุ่งเรือง, ผู้สว่างไสว, ผู้ส่อง. (ป. โชตก).
โชดึก : น. ผู้มีความรุ่งเรือง, ผู้มีความสว่างไสว. (ป. โชติก).
โชต : ว. สว่าง, รุ่งเรือง, โพลง. (ป.).
โชตกะ : [โชตะกะ] น. ผู้รุ่งเรือง, ผู้สว่างไสว, ผู้ส่อง. (ป.).
โชติก : [โชติกะ] น. ผู้มีความรุ่งเรือง, ผู้มีความสว่างไสว. (ป.).
โชติ, โชติ : [โชด, โชติ] น. ความรุ่งเรือง, ความโพลง, ความสว่าง. (ป.; ส. โชฺยติสฺ).
โชติรส : [โชติ] น. แก้ววิเศษชนิดหนึ่งมีรัศมีรุ่งเรือง. (ป.).
โชยติส : [ชะโยติด] น. ดาราศาสตร์. (ส.; ป. โชติ).
ไชย, ไชย : [ไช, ไชยะ] ว. ดีกว่า, เจริญกว่า. (ป., ส. เชยฺย).
ฌาน : [ชาน] น. ภาวะที่จิตสงบแน่วแน่เนื่องมาจากการเพ่งอารมณ์, การเพ่ง อารมณ์จนจิตแน่วแน่เป็นสมาธิ, เรียกลักษณะการทําจิตให้สงบตาม หลักทางศาสนาว่า เข้าฌาน เช่น พระเข้าฌาน ฤษีเข้าฌาน, โดย ปริยายหมายถึงนั่งหลับหรือนั่งเหม่อใจลอยไม่รับรู้อะไร เรียกว่า เข้าฌาน, ฌานนั้นจัดเป็น ๔ ชั้น เรียกชื่อตามลําดับที่ประณีตขึ้นไป กว่ากัน คือ ปฐมฌาน ได้แก่ ฌานที่ ๑ มีองค์ ๕ คือ ยังมีตรึก ซึ่งเรียก ว่า วิตก มีตรอง ซึ่งเรียกว่า วิจาร เหมือนอารมณ์แห่งจิตของคนสามัญ มีปีติ คือความอิ่มใจ มีสุข คือความสบายใจอันเกิดแต่วิเวกคือความ เงียบ และประกอบด้วยจิตมีอารมณ์เป็นหนึ่งลงไปซึ่งเรียกว่า เอกัคตา, ทุติยฌาน ได้แก่ ฌานที่ ๒ มีองค์ ๓ คือ ละวิตกวิจารเสียได้ คงอยู่แต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิกับเอกัคตา, ตติยฌาน ได้แก่ ฌานที่ ๓ มีองค์ ๒ คือ ละปีติเสียได้ คงอยู่แต่สุขกับเอกัคตา, จตุตถฌาน ได้แก่ ฌานที่ ๔ มีองค์ ๒ เหมือนกัน ละสุขเสียได้ กลายเป็นอุเบกขาคือเฉย ๆ กับเอกัคตา, ฌานทั้ง ๔ นี้จัดเป็นรูปฌาน เป็นรูปสมาบัติ มีรูปธรรมเป็นอารมณ์ สงเคราะห์เข้าในรูปาวจรภูมิ. (ป.; ส. ธฺยาน).
ฌาปน- : [ชาปะนะ-] น. การเผาศพ, การปลงศพ. (ป.).
ญัตติ : น. คําประกาศให้สงฆ์ทราบเพื่อทํากิจของสงฆ์ร่วมกัน เช่น ญัตติทุติยกรรมวาจา ญัตติจตุตถกรรมวาจา, คําเผดียงสงฆ์ ก็ว่า ข้อเสนอเพื่อลงมติ เช่น ผู้แทนราษฎรเสนอญัตติเข้าสู่สภาเพื่อขอให้ ที่ประชุมลงมติว่าจะเห็นชอบด้วยหรือไม่; หัวข้อโต้วาที เช่น โต้วาทีในญัตติว่า ขุนช้างดีกว่าขุนแผน. (ป.).
ญาณ, ญาณ- : [ยาน, ยานะ-, ยานนะ-] น. ปรีชาหยั่งรู้หรือกําหนดรู้ที่เกิดจาก อํานาจสมาธิ, ความสามารถหยั่งรู้เป็นพิเศษ. (ป.; ส. ชฺ?าน).
ญาณทัสนะ : [ยานะทัดสะนะ, ยานนะทัดสะนะ] (แบบ) น. ความรู้ ความเห็น. (ป.).
ญาณศาสตร์ : [ยานะสาด, ยานนะสาด] น. ตําราพยากรณ์. (ป. ?าณ + ส. ศาสฺตฺร).
ญาติ, ญาติ- : [ยาด, ยาติ-, ยาดติ-] น. คนในวงศ์วานที่ยังนับรู้กันได้ทางเชื้อสาย ฝ่ายพ่อหรือฝ่ายแม่. (ป.).
ญาติเภท : [ยาติเพด] (แบบ) น. การแตกระหว่างญาติ. (ป.).
เญยธรรม, ไญยธรรม : [เยยยะทํา, ไยยะทํา] (แบบ) น. ธรรมที่ควรรู้. (ป. เ?ยฺย + ส. ธรฺม).
ฎีกา : น. คําอธิบายขยายความ เช่น ฎีกาพาหุง; ชื่อคัมภีร์หนังสือที่แก้หรือ อธิบายคัมภีร์อรรถกถา; หนังสือที่เขียนนิมนต์พระสงฆ์; ใบแจ้ง การขอเบิกเงินจากคลัง; ใบบอกบุญเรี่ยไร; (กฎ) คําร้องทุกข์ที่ ราษฎรทูลเกล้าฯ ถวายต่อพระมหากษัตริย์; ชื่อศาลยุติธรรมสูงสุด ของประเทศไทย ซึ่งเรียกว่าศาลฎีกา; การคัดค้านคําพิพากษาหรือ คําสั่งศาลอุทธรณ์ที่คู่ความยื่นต่อศาลชั้นต้น เพื่อเสนอให้ศาลฎีกา พิจารณาพิพากษาหรือวินิจฉัยชี้ขาด; (โบ) ใบเรียกเก็บเงิน. (ปาก) ก.ยื่นคําร้องขอหรือคําคัดค้านต่อศาลฎีกา เช่น คดีนี้จะฎีกาหรือไม่. (ป. ฏีกา).
ฐาน ๑ : [ถาน] น. ที่ตั้ง เช่น ฐานทัพ ฝีตั้งฐาน, ที่รองรับ เช่น ฐานพระพุทธรูป. (ป.).
ฐาน ๒, ฐาน, ฐานะ : [ถาน, ถานะ] น. ตําแหน่งหน้าที่; หลักฐาน, ลําดับความเป็นอยู่ใน สังคม เช่น ทุกคนยอมรับรู้ฐานะในสังคมของเขา. (ป.).
ฐานานุรูป : ว. สมควรแก่ฐานะ. (ป.).
ฐานียะ : (แบบ) ว. ควรแก่ตําแหน่ง, ตั้งอยู่ในฐานะ, มักประกอบท้ายศัพท์ เช่น ครุฐานียะ ว่า ตั้งอยู่ในฐานะเป็นครู. (ป.).
ฐาปน, ฐาปนา : [ถาปะนะ, ถาปะนา] น. การก่อสร้าง, การแต่งตั้ง, การซ่อมแซม, การตั้งขึ้น. (ป. ?ปน).
ฐายี : (แบบ) ว. ตั้งอยู่, ดํารงอยู่, มักประกอบท้ายศัพท์ เช่น กัปปัฏฐายี ว่า ตั้งอยู่กัปหนึ่ง. (ป.).
ฐิตะ : [ถิตะ] (แบบ) ก. ยืนอยู่, ตั้งอยู่แล้ว. (ป.).
ฐิติ : [ถิติ] น. การตั้งอยู่, การยืนอยู่, การดํารงอยู่; การเป็นไป, ความมีชีวิต อยู่; การหยุดอยู่; ความมั่นคง, ความอดทน; ตำแหน่ง, ที่อยู่; ข้อบังคับ, ข้อบัญญัติ; ความแน่นอน. (ป.).
ฑังส : [ดังสะ] (แบบ) น. เหลือบ. (ป. ฑํส).
ฑาก : [ดากะ] (แบบ) น. ผักดอง, เมี่ยง. (ป.).
ฑาหก : [ทาหก] น. ผู้เผา; ไฟ. (ป.).
ฑาหะ : [ทาหะ] (แบบ) น. ความร้อน, ไฟ. (ป.).
ดนยะ, ดนัย : [ดะนะยะ, ดะไน] (แบบ) น. ลูกชาย. (ป., ส. ตนย).