เบี้ยเลี้ยง : (กฎ) น. เงินที่จ่ายให้เป็นค่าอาหารประจําวันในกรณีที่ ออกทํางานนอกสถานที่ตั้งประจํา.
เลี้ยง : ก. ดูแล, เอาใจใส่, บํารุง, เช่น เลี้ยงกล้วยไม้, ปรนปรือด้วยอาหาร การกินเป็นต้น เช่น เลี้ยงสัตว์เลี้ยงลูก, เลี้ยงดู ก็ว่า, ประคับประคอง ให้ทรงตัวอยู่ได้ เช่น เลี้ยงชีพ เลี้ยงตะกร้อไว้ได้นาน ๆ, กินร่วมกัน เพื่อความรื่นเริงหรือความสามัคคีเป็นต้น เช่น เลี้ยงเพื่อน เลี้ยงรุ่น เลี้ยงสังสรรค์(ปาก) เป็นเจ้ามือจ่ายค่าอาหารหรือค่าบันเทิงเป็นต้น เช่น เลี้ยงโต๊ะจีน เลี้ยงหนัง.
เบี้ย ๑ : น. ชื่อหอยทะเลกาบเดี่ยวหลายชนิดในสกุล Cypraea วงศ์ Cypraeidae เปลือกแข็ง ผิวเป็นมัน หลังนูน ท้องแบน ช่องปาก ยาวแคบและไปสุดตอนปลายทั้ง ๒ ข้าง เป็นลําราง ริมปากทั้ง ๒ ด้านหยักหรือมีฟัน ไม่มีแผ่นปิด เรียกรวม ๆ ว่า หอยเบี้ย, เปลือกหอยเบี้ยชนิดที่คนโบราณใช้เป็นวัตถุกลางสําหรับซื้อ ขายสิ่งของ เรียกว่า เบี้ย เช่น เบี้ยจั่น หรือ เบี้ยจักจั่น ก็คือ เปลือก ของหอยเบี้ยชนิด C. moneta เบี้ยแก้ว หรือ เบี้ยนาง คือ เปลือก ของหอยเบี้ยชนิด C. annulus มีอัตรา ๑๐๐ เบี้ย เป็น ๑ อัฐ (เท่ากับ สตางค์ครึ่ง) จึงเรียกคําว่า เบี้ย เป็นเงินติดมาจนทุกวันนี้ เช่น เบี้ยประชุม เบี้ยประกัน เบี้ยเลี้ยงชีพ.
เบี้ย ๒ : น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Portulaca oleracea L. ในวงศ์ Portulacaceae ใช้เป็นผักได้, ผักเบี้ย หรือ ผักเบี้ยใหญ่ ก็เรียก.
เลี้ยงตัว : ก. ทำมาหากินเพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้, เลี้ยงชีพ หรือ เลี้ยง อาตมา ก็ว่า, ดำเนินงานพอให้กิจการดำรงอยู่ได้ เช่น กิจการพอ เลี้ยงตัวได้; อาการที่ประคองตัวให้ทรงอยู่บนสิ่งที่ล่อแหลมต่อการ พลั้งพลาดหรือบางทีอาจเป็นอันตราย เช่น เลี้ยงตัวบนเส้นลวด.
เบี้ยแก้ : น. ชื่อหอยทะเลกาบเดี่ยว ๒ ชนิด ในวงศ์ Cypraeidae คือ ชนิด Cypraea mauritiana เปลือกเรียกว่า เบี้ยแก้ใหญ่ หรือ เบี้ยอีแก้ ใช้ขัดผ้าให้เนื้อเรียบเป็นมัน ชนิด C. caputserpentis เปลือกเรียกว่า เบี้ยแก้ ใช้ทํายา.
เบี้ยโบก : น. การพนันอย่างหนึ่ง ซัดเบี้ยเข้ากระบอกแล้วให้ลูกมือ แทง.
เบี้ยหวัด : น. (โบ) เงินที่มีกำหนดจ่ายเป็นรายปีให้แก่พระบรม วงศานุวงศ์หรือข้าราชบริพารจากเงินงบประมาณรายจ่ายหมวด เงินอุดหนุนของสำนักพระราชวัง, เงินปี หรือ เบี้ยหวัดเงินปี ก็เรียก; เงินตอบแทนความชอบที่ให้แก่ทหารที่ออกจากประจํา การ ซึ่งจ่ายเป็นรายเดือนตามข้อบังคับของกระทรวงกลาโหม.
เลี้ยงแขก : ก. เลี้ยงอาหารแก่ผู้ได้รับเชิญเช่น เลี้ยงแขกในงานมงคล สมรส อาหารพวกนี้สำหรับเลี้ยงแขก.
เลี้ยงชีพ : ก. เลี้ยงตัว, ทำมาหากินเพื่อให้ชีวิตดำรงอยู่ได้, เลี้ยงอาตมา ก็ว่า.
เลี้ยงดู : ก. ดูแล, เอาใจใส่, บํารุง, ปรนปรือด้วยอาหารการกินเป็นต้น, (มักใช้แก่คน) เช่น เลี้ยงดูพ่อแม่.
เลี้ยงดูปูเสื่อ : ก. ต้อนรับเลี้ยงดูด้วยอาหารการกินอย่างดี.
เลี้ยงได้แต่ตัว : ก. เลี้ยงได้เฉพาะแต่ร่างกายเท่านั้นไม่สามารถจะ บังคับจิตใจเขาได้, มักใช้ว่าเลี้ยงได้แต่ตัวเท่านั้น จิตใจเลี้ยงไม่ได้.
เลี้ยงต้อนรับ : ก. เลี้ยงอาหารเนื่องในการรับรองแขกหรือบุคคลใด บุคคลหนึ่ง เช่น รัฐบาลเลี้ยงต้อนรับแขกเมือง.
เลี้ยงตอบ, เลี้ยงตอบแทน : ก. เลี้ยงอาหารเป็นต้น ตอบแทนแก่ผู้ที่เคย เลี้ยงอาหารตนมาก่อน.
เลี้ยงต้อย : ก. เลี้ยงมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยจนเติบโตแล้วก็ยกฐานะขึ้น เป็นสามีหรือภรรยาของผู้เลี้ยงเอง.
เลี้ยงโต๊ะ : ก. เลี้ยงแขกอย่างกินโต๊ะ.
เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง : ก. ทํามาหากินพอเลี้ยงตัว.
เลี้ยงผี : ก. เลี้ยงวิญญาณของคนที่ตายแล้วเพื่อเอามาใช้ประโยชน์ เช่นการเสี่ยงทายเป็นต้น.
เลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย : (สำ) ก. เลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังเป็นทารก.
เลี้ยงไม่ขึ้น : ก. อบรมเลี้ยงดูคนบางคนอย่างดีแต่ก็มิได้ทำให้คนผู้นั้น เจริญรุ่งเรืองขึ้นเลย; เลี้ยงคนบางคนแล้วผู้นั้นยังไม่กตัญญูรู้คุณ.
เลี้ยงไม่เชื่อง : ก. อาการของสัตว์บางชนิดเช่นนกกระจอกแม้จะเอา มาเลี้ยงอย่างไร ๆ ก็ไม่เชื่อง, โดยปริยายหมายความว่า เนรคุณ.
เลี้ยงไม่รู้จักโต : ก. เลี้ยงจนโตควรจะพึ่งตัวเองได้แล้ว แต่ก็ยังต้อง ขอเงินและข้าวของเป็นต้นจากพ่อแม่, เลี้ยงจนโตแล้วก็ยังประจบ ออเซาะแม่เหมือนเด็ก ๆ.
เลี้ยงไม่เสียข้าวสุก, เลี้ยงไม่เสียหลาย : ก. เลี้ยงแล้วยังใช้ประโยชน์ ได้บ้าง.
เลี้ยงรับ : ก. เลี้ยงอาหารเพื่อเป็นการต้อนรับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง เช่น เลี้ยงรับผู้ที่จะมาอยู่ใหม่.
เลี้ยงลา : ก. เลี้ยงอาหารเป็นการอำลาของผู้ที่จะจากไป เช่น นายแดง เลี้ยงลาเพื่อน ๆ ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่น.
เลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ : (สำ) ก. บำรุงเลี้ยงดูลูกศัตรูหรือลูกคนพาล จะได้รับความเดือดร้อนในภายหลัง.
เลี้ยงไว้ดูเล่น : ก. เลี้ยงไว้ก็ไม่เสียหายอะไร.
เลี้ยงส่ง : ก. เลี้ยงอาหารแก่ผู้ที่จะจากไปอย่างเดินทางไปต่างประเทศ เป็นต้น เช่น เลี้ยงส่งเพื่อนไปศึกษาต่างประเทศ.
เลี้ยงเสียข้าวสุก : ก. เลี้ยงแล้วไม่ได้ประโยชน์อะไร.
เลี้ยงอาตมา : ก. เลี้ยงตัว, เลี้ยงชีพ ก็ว่า.
เบี้ยกันดาร : (กฎ) น. เงินที่จ่ายช่วยเหลือข้าราชการและลูกจ้าง ประจําเนื่องจากการปฏิบัติราชการประจําในท้องที่กันดารหรือ โรงในเรียนที่กันดาร.
เบี้ยต่อไส้ : (สํา) น. เงินที่พอประทังชีวิตให้ยืนยาวไปได้ชั่วระยะ หนึ่ง.
เบี้ยทำขวัญ : (โบ) น. เงินที่ฝ่ายหนึ่งต้องเสียให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็น ค่าเสียหาย.
เบี้ยน้อยหอยน้อย : (สํา) ว. มีเงินน้อย, มีไม่มาก.
เบี้ยบน : ว. มีอํานาจเหนือ, ได้เปรียบ, เป็นต่อ.
เบี้ยบ้ายรายทาง : (สํา) น. เงินที่จะต้องใช้จ่ายหรือเสียไปเรื่อย ๆ เป็นระยะ ๆ ในขณะทําธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่งให้สําเร็จ.
เบี้ยบำนาญ : (โบ; ปาก) น. บํานาญ.
เบี้ยประกันภัย : (กฎ) น. จํานวนเงินที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องชําระ ให้แก่ผู้รับประกันภัยตามสัญญา เพื่อที่จะได้รับเงินผลประโยชน์ หรือค่าสินไหมทดแทน เมื่อตนเสียชีวิต หรือเมื่อได้รับความ เสียหายตามชนิดของภัยที่ได้เอาประกันภัยไว้.
เบี้ยประชุม : น. เงินค่าตอบแทนที่ให้แก่กรรมการเป็นต้นที่เข้าประชุม.
เบี้ยปรับ : (กฎ) น. จํานวนเงินหรือการชําระหนี้อย่างอื่นที่มิใช่เป็น จํานวนเงิน ซึ่งลูกหนี้สัญญาว่าจะให้เจ้าหนี้เรียกเอาได้เมื่อตนไม่ชําระ หนี้ หรือไม่ชําระหนี้ให้ถูกต้องสมควร; เงินค่าปรับที่ผู้ต้องเสียภาษี อากรจะต้องเสียเพิ่มขึ้นจากจํานวนภาษีอากรที่ต้องชําระ ในกรณีที่ไม่ ปฏิบัติตามที่ประมวลรัษฎากรกําหนดไว้.
เบี้ยล่าง : ว. ใต้อํานาจ, เสียเปรียบ, เป็นรอง.
เบี้ยหัวแตก, เบี้ยหัวแหลก : น. เงินที่ได้มาไม่เป็นกอบเป็นกําแล้ว ใช้จ่ายหมดไปโดยไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน.
เลี้ยงไข้ : ก. อาการที่หมอจงใจชะลอการรักษาโรคให้หายช้าเพื่อ จะเรียกค่ารักษาได้นาน ๆ.
เลี้ยงความ : ก. อาการที่ทนายความของโจทก์และจำเลยสมคบกัน ถ่วงคดีความให้ล่าช้า โดยประสงค์ที่จะเรียกค่าใช้จ่ายในการว่าความ ที่ต้องยืดเยื้อออกไป.
เลี้ยงช้างกินขี้ช้าง : (สํา) ก. หาผลประโยชน์โดยมิชอบจากงานที่ทํา.
เลี้ยงน้ำใจ : ก. ถนอมน้ำใจ, ประคับประคองไว้ไม่ให้เสียน้ำใจ.
เลี้ยงผม : ก. ไว้ผมยาวโดยไม่ตัด.
เลี้ยงผอก : ก. นำข้าวไปให้ชาวนากินในเวลาทำนา.
เลี้ยงไฟ : ก. อาการที่คอยเติมเชื้อไฟไว้มิให้ไฟดับ.