ตีทอง : (N) ; Megalaima haemacephala ; Related:barbets ; Def:ชื่อนกชนิด Megalaima haemacephala ในวงศ์ Megalaimidae เป็นนกโพระดกที่เล็กที่สุด ตัวเขียว คอเหลือง อกแดง หน้าผากแดง ขอบตาเหลือง ทำรังในโพรงไม้ กินผลไม้ ชอบเกาะบนต้นไม้สูง ร้องเสียง ป๊กๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมอ ; Samp:สาเหตุที่เรียกว่านกตีทองเพราะมันร้องดัง โป๊ง-โป๊ง คล้ายค้อนตีทองของพวกช่างทอง ; Unit:ตัว
ตีนกา 2 :
(N) ;
goose grass ;
Related:clivers, yard grass, coarse tufted annual, eleusine indica ;
Syn:หญ้าตีนกา, หญ้าปากคอก ;
Def:ชื่อหญ้าชนิด Eleusine indica Gaertn. ในวงศ์ Gramineae ลำต้นแบน ช่อดอกเป็นก้านเดี่ยว ปลายก้านแตกเป็นแขนงสั้นๆ คล้ายตีนกา ใช้ทำยาได้ ;
Unit:ต้น
ตีนตะขาบ :
(N) ;
caterpillar tractor ;
Syn:รถตีนตะขาบ ;
Def:รถชนิดหนึ่งซึ่งขับเคลื่อนด้วยสายพาน สามารถขับเคลื่อนไปในภูมิประเทศที่เป็นทุ่งนาป่าเขาได้ดีกว่ารถที่ใช้ล้อธรรมดา ;
Samp:รถตีนตะขาบสามารถวิ่งไปในภูมิประเทศที่ไม่มีถนนได้ ;
Unit:คัน
ตีนถีบปากกัด :
(V) ;
fight tooth and nail ;
Related:work very hard, struggle utterly ;
Syn:ปากกัดตีนถีบ ;
Def:มานะพยายามทำงานทุกอย่างเพื่อปากท้องโดยไม่คำนึงถึงความเหนื่อยยาก ;
Samp:ถึงคราวที่เราจะต้องตีนถีบปากกัดช่วยตัวเองกันแล้ว
ตีบ 1 :
(ADJ) ;
constricted ;
Related:narrow ;
Syn:แคบ, คอด, กิ่ว ;
Ant:กว้าง ;
Def:มีอาการแคบเข้าผิดปกติ (ใช้แก่สิ่งที่เป็นช่องกลวง) ;
Samp:โรคลิ้นหัวใจตีบมีลักษณะอาการคือรูของลิ้นหัวใจเล็กทำให้เลือดไหลลงไม่สะดวก
ตีบ 1 :
(V) ;
narrow ;
Related:be constricted ;
Syn:แคบ ;
Ant:กว้าง ;
Def:แคบเข้าผิดปกติ (ใช้แก่สิ่งที่เป็นช่องกลวง) ;
Samp:เวลามองถนนไปไกลๆ ข้างหน้าเราจะเห็นปลายถนนตีบเข้าจบกัน ณ จุดหนึ่ง
ตีบ 2 : (N) ; kind of banana ; Def:ชื่อกล้วยพันธุ์หนึ่งของชนิด Musa sapientum Linn. ผลเล็กเป็นเหลี่ยม สุกกินได้ รากใช้ทำยาได้
ตีบรรทัด :
(V) ;
rule ;
Related:draw a line, make lines ;
Syn:ขีดเส้น, ตีเส้น ;
Def:ทำให้เป็นเส้นบรรทัดตามแนวนอน ;
Samp:หนูน้อยใช้ไม้บรรทัดตีบรรทัดบนกระดานชนวน
ตีปีก :
(V) ;
crow ;
Related:express joy by moving the elbows up and down ;
Def:แสดงความดีใจโดยงอข้อศอกแล้วเอาต้นแขนตีสีข้างอย่างไก่ตีปีก ;
Samp:ขณะนี้ชาติที่ยังใช้ระบบรวมหมู่ทั่วโลก ต่างพากันตีปีกที่ได้เห็น ความล้มเหลวของทุนนิยมโลก
ตีแปลง :
(V) ;
wallow (in mud) ;
Related:move, roll, or lie happily ;
Def:ทำดินโคลนให้เป็นแอ่งสำหรับนอนเกลือก (ใช้แก่ควาย หมู) ;
Samp:หมูป่าคงจะมากินมาอาบมานอนตีแปลงในแอ่งนี้
ตีฝ่า :
(V) ;
break through ;
Related:breach ;
Syn:ตีแตก ;
Def:ต่อสู้หรือสู้รบผ่านสิ่งอันตรายออกมาอย่างกล้าหาญ ;
Samp:กองทัพตีฝ่าวงล้อมของศัตรูออกมาได้ เพราะแผนอันชาญฉลาดของหัวหน้าทัพ
ตีวง :
(V) ;
encircle ;
Related:make a wide sweep ;
Syn:ล้อมวง, โอบล้อม, ตีวงล้อม, ขยายวง ;
Def:เคลื่อนที่ล้อมเป็นวง ;
Samp:เราต้องตีวงออกไปให้กว้างเพื่อไม่ให้ศัตรูเข้ามาประชิดตัวได้
ตีสองหน้า : (V) ; engage in double-dealing ; Related:be two-faced, be double-faced, be hypocritical ; Def:ทำให้ 2 ฝ่ายต่างเข้าใจผิดว่าเป็นพวกตน, เข้าด้วยทั้งสองพวก
ตีสาย :
(V) ;
send a telegram ;
Related:wire, cable ;
Syn:ส่งโทรเลข ;
Def:ส่งรหัสสัญญาณจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยอาศัยสายตัวนำที่โยงติดต่อถึงกันและอาศัยอำนาจแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นสำคัญ ;
Samp:ผมจะตีสายไปถึงเขา โปรดรับสายด้วย
ตีสำนวน :
(V) ;
speak eloquently ;
Related:play with words, use idiomatic expression, wisecrack ;
Syn:เล่นสำนวน, ตีโวหาร, ตีฝีปาก, เล่นสำบัดสำนวน ;
Def:พูดใช้สำนวนโวหารเป็นเชิงอวดฉลาด ;
Samp:ประเด็นที่พูดตอนแรกไม่ได้ตีสำนวน แต่ต้องการให้ลองพิจารณา
ตึ :
(ADV) ;
stuffy ;
Related:stale, musty, fusty ;
Syn:ตึๆ, ตุๆ ;
Def:ลักษณะกลิ่นเหม็นอย่างหนึ่งคล้ายกลิ่นเนื้อแห้ง มักใช้ประกอบคำเหม็น ;
Samp:เนื้อทอดจานนี้เหม็นตึจนนำมาทานไม่ได้
ตึ้กตั้ก :
(ADV) ;
sound of the throbbing of the heart ;
Related:loudly, wildly ;
Syn:ตึ้กๆ, ตึกๆ ;
Def:เสียงดังอย่างหัวใจเต้นเวลาเหนื่อยหรือตกใจ ;
Samp:เมื่อเห็นเธอ ใจผมก็ระทึกสะท้านเต้นตึ้กตั้ก...ตึ้กตั้ก คล้ายจะบอกว่านั่นยังไงมาแล้วเธอมาแล้ว
ตึกแถว :
(N) ;
commercial buildings ;
Related:tenement house ;
Syn:ห้องแถว ;
Def:อาคารที่พักอาศัยหรืออาคารพาณิชย์ ซึ่งปลูกสร้างติดต่อกันเป็นแถวเกิน 2 ห้อง และประกอบด้วยวัตถุทนไฟเป็นส่วนใหญ่ ;
Samp:บ้านสวยสง่างามของเจือทองโดนบังด้วยตึกแถว ;
Unit:ห้อง, คูหา
ตึงตัง :
(ADV) ;
loudly ;
Related:wildly, boisterously, nosily ;
Syn:เอะอะตึงตัง ;
Def:เสียงเอะอะ, เสียงดังอย่างของหนักๆ ตกลงบนพื้นหลายๆ ครั้ง ;
Samp:ลมบนปะทะกันตึงตังเหมือนเสียงฟ้าร้อง
ตื่น :
(V) ;
be aware of ;
Related:realize, wake up to something ;
Def:รู้สิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง
ตุ :
(ADJ) ;
stinky ;
Related:smelly, foul-smelling, stuffy-smelling ;
Syn:ตุๆ, เหม็นตุ ;
Ant:หอม ;
Def:ลักษณะกลิ่นเหม็นอย่างหนึ่งคล้ายกลิ่นเนื้อหรือปลาที่ตากไม่ได้แดด, ใช้ประกอบคำเหม็น ;
Samp:ปลาตัวนี้มีกลิ่นตุ
ตุๆ :
(ADJ) ;
stinky ;
Related:smelly, odorous, reeking, foul ;
Syn:ตุ, เหม็นตุ ;
Def:ลักษณะกลิ่นเหม็นอย่างหนึ่งคล้ายกลิ่นเนื้อหรือปลาที่ตากไม่ได้แดด, ใช้ประกอบคำเหม็น ;
Samp:รองเท้าอับจะมีกลิ่นตุๆ
ตุ๊กแก 2 : (N) ; lizard fish ; Related:Saurida tumbil ; Syn:ปลาตุ๊กแก ; Def:ชื่อปลาเก๋าชนิดหนึ่งในวงศ์ Serraniead ที่มีสีต่างๆ เป็นแต้ม ด่าง, ดวง, ลาย หรือจุดประคล้ำทึบ ; Samp:ปลาตุ๊กแกคือปลาเก๋าที่เราชอบกินกันนั่นเอง ; Unit:ตัว
ตุ๊กตา :
(N) ;
doll ;
Related:toy ;
Syn:ตุ๊กตุ่น, ตุ๊กตุ่นตุ๊กตา ;
Def:ของเล่นของเด็กซึ่งทำเป็นรูปคนหรือสัตว์ เป็นต้น มักมีขนาดเล็กกว่าตัวจริง ;
Samp:เด็กมักจะสนุกกับการเล่นกับสัญลักษณ์ เช่น การเล่นสมมติ เล่นตุ๊กตา เล่นขายของ ;
Unit:ตัว
ตุ๊กตุ่น :
(N) ;
doll ;
Related:kind of animal-shaped toys ;
Syn:ตุ๊กตุ่นตุ๊กตา ;
Def:ของเล่นสำหรับเด็ก ทำเป็นรูปสัตว์หรือสัตว์ประหลาดต่างๆ ขนาดเล็กกว่าตัวจริง ;
Samp:เขาปั้นตุ๊กตุ่นรูปควายให้หลานเล่น ;
Unit:ตัว
ตุบๆ :
(ADV) ;
throbbingly ;
Related:spasmodically, repeatedly, achingly ;
Def:อาการที่ชีพจรเต้นเป็นระยะ ;
Samp:แม่จำได้ดีถึงครั้งแรกที่ลูกดิ้น ลักษณะคล้ายกับมีอะไรเต้นตุบๆ อยู่ข้างใน
ตุ้ม 2 :
(N) ;
species of insect ;
Syn:ตุ๊ดตู่, แมงช้าง, แมลงช้าง ;
Def:ชื่อตัวอ่อนของแมลง รูปร่างอ้วนป้อม มีขนเป็นกระจุกตามลำตัว ขากรรไกรหน้ายาวยื่นและโค้งเหมือนงาช้าง ฝังตัวอยู่ในหลุมทรายซึ่งขุดเป็นรูปกรวย เพื่อล่อให้มดหรือสัตว์เล็กๆ ตกลงไปแล้วขึ้นไม่ได้ จะได้จับกินเป็นอาหาร ;
Unit:ตัว
ตุ่ม 3 : (N) ; kind of small fish ; Related:Puntius bulu ; Def:ชื่อปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง อยู่ในจำพวกปลาตะเพียน ไม่มีหนวด กระโดงครีบหลังแข็งและหยักเป็นฟันเลื่อย ลำตัวมีลายพาดสีดำ ; Unit:ตัว
ตุ่ย :
(ADJ) ;
puffy ;
Related:swollen, distended, swelled, bulgy, enlarged, inflamed ;
Syn:โป่ง, พอง, นูน, ตุง, โปน, โน ;
Def:ลักษณะที่บางสิ่งบางอย่างดันให้นูนโป่งออกมา ;
Samp:หลังจากประสบอุบัติเหตุไม่กี่ชั่วโมง ใบหน้าเขาก็บวมตุ่ย ฟกช้ำไปหมด
ตุ่ย :
(V) ;
bulge ;
Related:be puffy, swell ;
Syn:โป่ง, พอง, นูน, ตุง, โปน, โน ;
Def:ลักษณะที่บางสิ่งบางอย่างดันให้นูนโป่งออกมา ;
Samp:เด็กชอบอมข้าวจนแก้มตุ่ย
ตู้เซฟ :
(N) ;
safe ;
Syn:ตู้นิรภัย ;
Def:ตู้ที่ทำขึ้นให้แข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อป้องกันทรัพย์สินภายในจากการโจรกรรม หรืออัคคีภัย ;
Samp:อารามที่จะไปถึงบ้านโดยเร็วเขาเลยลืมปิดตู้เซฟ ;
Unit:ตู้, ใบ, หลัง, ลูก
ตู้นิรภัย :
(N) ;
safe ;
Syn:ตู้เซฟ ;
Def:ตู้ที่ทำขึ้นให้แข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อป้องกันทรัพย์สินภายในจากการโจรกรรม หรืออัคคีภัย ;
Samp:ของมีค่าทั้งหมดของเขาฝากไว้ในตู้นิรภัยของธนาคาร ;
Unit:หลัง,ใบ, ตู้, ลูก
ตู้ไปรษณีย์ :
(N) ;
mailbox ;
Related:postbox, letter box ;
Syn:ตู้ป.ณ. ;
Def:ตู้สำหรับสอดจดหมาย กั้นให้เป็นช่องๆ ของกรมไปรษณีย์โทรเลข ;
Samp:ทุกๆ อาทิตย์เธอจะต้องนำจดหมายไปทิ้งที่ตู้ไปรษณีย์ ;
Unit:ตู้
ตู้ยาม :
(N) ;
sentry box ;
Syn:ป้อมยาม ;
Def:ห้องเล็กๆ สำหรับคนยาม หรือตำรวจทหารยืนเฝ้ายาม เป็นตู้ห้อง หน้าเปิดที่มีฝาและหลังคา ;
Samp:ผมลืมตาตื่นตั้งแต่ได้ยินเสียงแขกยามเคาะแผ่นเหล็กห้าครั้ง ดังแว่วมาจากตู้ยามมุมถนน ;
Unit:หลัง, ตู้
เต้นเขน : (V) ; perform the Thai drama from the Ramayana by wearing mark and dancing ; Related:(of Siamese drama) to dance ; Def:อาการเต้นของพลรบที่เป็นมนุษย์ ยักษ์และลิง ที่ออกเต้นเป็นจังหวะเข้ากับปี่พาทย์ในการเล่นโขน เมื่อเวลายกทัพ
เต้นรำ :
(V) ;
dance ;
Def:เคลื่อนไปโดยมีระยะก้าวตามกำหนด ให้เข้ากับจังหวะดนตรี โดยปกติเต้นเป็นคู่ชายหญิง ;
Samp:6.00น.เช้าของวันใหม่ เขาก็ยังพบชาวหยีและชนกลุ่มน้อยเผ่าอื่นเต้นรำกันหนาแน่นเช่นเดิม
เต็มความสามารถ :
(ADV) ;
with all one's ability ;
Related:fully ;
Def:ตั้งใจทำอย่างสุดฝีมือเท่าที่จะทำได้ ;
Samp:ทุกคนในทีมทำเต็มความสามารถแล้ว ถึงจะแพ้ก็ไม่เสียใจ
เต็มเต็ง :
(V) ;
be normal ;
Related:be all there, be sane ;
Syn:เต็มบาท ;
Ant:บ้า, บ้าๆ บอๆ ;
Def:มีจิตใจสมบูรณ์เป็นปกติ ;
Samp:บางทีเขาอาจจะไม่เต็มเต็งก็ได้
เต็มบาท :
(V) ;
be normal ;
Related:be sane, be all there ;
Syn:เต็มเต็ง ;
Ant:บ้า, บ้าๆ บอๆ ;
Def:มีจิตใจสมบูรณ์เป็นปกติ ;
Samp:เขาไม่เต็มบาทเสียทีเดียว
เตร่ :
(V) ;
stroll ;
Related:hang around, wander, roam ;
Def:เดินไปเดินมาอย่างไม่มีจุดหมาย ;
Samp:ข้าพเจ้าคิดว่าร้านรวงคงจะเต็มครืดไปทั้งลานวัด แต่เมื่อเตร่เข้าไปกลับพบว่าอะไรต่อมิอะไรดูซึมเซา
เตร็ดเตร่ :
(ADV) ;
wanderingly ;
Def:เที่ยวไปไม่อยู่เป็นที่ ;
Samp:ตอนเช้า สมาชิกกลุ่มนี้จะเดินทางมาพบพานกันที่สถานีรถไฟบางแก้ว นั่งเตร็ดเตร่ เดินเล่นรอจนรถขบวน 8 โมงครึ่งเคลื่อนตัวออกจากชานชาลา
เตร็ดเตร่ :
(V) ;
stroll ;
Related:hang around, wander, roam ;
Def:เที่ยวไปไม่อยู่เป็นที่ ;
Samp:เมื่อก่อนผมเคยเตร็ดเตร่อยู่ทางย่านนั้นหลายปี
เตรียมรับมือ :
(V) ;
keep up with ;
Def:เตรียมความพร้อมที่จะต่อสู้โดยเป็นฝ่ายรับ ;
Samp:นาโต้ระดมทหารกองหนุน เพื่อเตรียมรับมือวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
เตะจมูก : (V) ; be appetizing ; Related:strike the nose ; Def:ได้กลิ่นอย่างแรง ; Samp:กลิ่นหอมของอาหารพัดมาเตะจมูกผม
เตาแก๊ส :
(N) ;
gas stove ;
Def:เตาหุงต้มที่ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง ;
Samp:เดี๋ยวนี้เขาใช้เตาแก๊สกันแล้วละเพราะไม่ต้องมีควันไฟ เร็วด้วย สะดวกด้วย ;
Unit:ใบ, ลูก, เตา
เตาฟู่ : (N) ; pressure stove ; Def:เตาที่ใช้สูบลมพ่นน้ำมันให้ขึ้นไปถูกไฟลุกเป็นเปลว
เตาสูบ :
(N) ;
furnace ;
Related:forge ;
Def:เตาที่ใช้สูบลมพ่นถ่านให้ลุกเป็นเปลว
เต้าหู้ :
(N) ;
bean curd ;
Related:tofu, soybean cake ;
Def:ถั่วเหลืองที่โม่เป็นแป้งแล้วทำเป็นแผ่นๆ ใช้เป็นอาหาร มี 2 ชนิด คือ เต้าหู้ขาว และเต้าหู้เหลือง ;
Samp:พ่อชอบรับประทานถั่วต่างๆ และผลิตผลจากถั่ว เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลืองซึ่งมีคุณค่าใกล้เคียงเนื้อสัตว์
เตาะแตะ : (V) ; play for small stakes with little capital ; Def:การเล่นการพนันหรือทำการค้าอย่างมีทุนน้อยแล้วต่อทุนให้มาก