แล้วก็ :
(CONJ) ;
then ;
Related:and then, and afterwards, and subsequently, after that ;
Def:เป็นคำเชื่อมสำหรับต่อความแสดงกิริยาที่กระทำภายหลัง ;
Samp:แกนนำระดับล่างจะเป็นเรื่องของคนที่นำกลุ่มเข้ามาชุมนุม แล้วก็มาจัดการดำเนินการชุมนุมให้ต่อเนื่อง
แล้วจึง :
(CONJ) ;
then ;
Related:and then, cons ;
Def:เป็นคำเชื่อมกิริยาหรือการกระทำ 2 อย่าง โดยกิริยาแรกจะเป็นเหตุนำไปสู่กิริยาที่ตามมา ;
Samp:ศาลพิจารณาสำนวนแล้วจึงสั่งปล่อยจ่ามี
แล้วจึง :
(CONJ) ;
then ;
Related:and then, consequently, therefore, thus, so ;
Def:เป็นคำเชื่อมกิริยาหรือการกระทำ 2 อย่าง โดยกิริยาแรกจะเป็นเหตุนำไปสู่กิริยาที่ตามมา ;
Samp:ศาลพิจารณาสำนวนแล้วจึงสั่งปล่อยจ่ามี
กลบเกลี่ย :
(V) ;
cover with earth and then smooth over the surface ;
Related:fill and level up ;
Syn:ถม, คลุม ;
Def:ปิดให้เรียบสนิท ;
Samp:เมื่อขุดหลุมแล้วต้องกลบเกลี่ยให้สนิท
ตายขุย : (V) ; bear fruit once and then die (as the bamboo) ; Related:be monocarpic ; Def:ออกดอกเป็นเมล็ดแล้วตาย (ใช้แก่ไม้ในจำพวกไผ่) ; Samp:ต้นไผ่หน้าบ้านตายขุยหลังออกดอกแล้ว
กับ :
(CONJ) ;
and ;
Related:with ;
Syn:และ ;
Samp:แดงกับดำเป็นเพื่อนกัน
ค่อย :
(CONJ) ;
then ;
Def:คำนำหน้าความข้างท้ายให้ติดต่อกับความข้างหน้า เพื่อแสดงกริยาที่กระทำภายหลัง ;
Samp:จงพยายามแก้จุดใหญ่ๆ ก่อน เมื่อแก้จุดใหญ่ๆ เสร็จ แล้วค่อยไปแก้จุดย่อยๆ ต่อไป
จากนั้น :
(CONJ) ;
then ;
Related:after that ;
Syn:แล้ว, หลังจากนั้น, ต่อจากนั้น ;
Ant:ก่อนนั้น, ก่อนหน้านั้น ;
Samp:เขาชวนเธอไปทานข้าว จากนั้นก็พากันไปดูหนัง
ไซร้ :
(END) ;
then ;
Syn:ไสร้ ;
Def:คำสำหรับเน้นความหมายของคำหน้า มีความหมายไปในทางว่า อย่างนั้น, เช่นนั้น, ทีเดียว ;
Samp:ถ้าทศกัณฐ์ไม่จำนนแล้วไซร้ หนุมานก็จะเผานครลงกาให้แหลกลาญ
ถึง :
(CONJ) ;
then ;
Related:thence ;
Syn:จึง ;
Samp:นั่นสิ ลูกต้องทำอย่างนี้ถึงจะเป็นเด็กดี
เมื่อนั้น :
(ADV) ;
then ;
Related:at the time, when ;
Samp:เมื่อใดที่พลังความเพียรเกิดขึ้น เมื่อนั้นการงานทั้งหลายก็สำเร็จได้โดยง่ายดายและรวดเร็ว
แล :
(CONJ) ;
and ;
Syn:และ, กับ ;
Samp:หลักสูตรที่กระผมเรียนมานั้นเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมแลมนุษยธรรมตะวันตก
และ :
(CONJ) ;
and ;
Syn:กับ, ด้วยกัน ;
Samp:เครื่องจักรทุกชนิดจะต้องมีมนุษย์เป็นผู้ควบคุมและสั่งการใช้งาน
คาที่ :
(ADV) ;
on the spot ;
Related:then and there ;
Def:ณ แห่งนั้น, ณ ที่นั้น ;
Samp:เขาถูกรถที่แล่นตามมาชนท้ายมอเตอร์ไซค์อย่างแรง ทำให้เพื่อนหัวน๊อกพื้นตายคาที่
ทันควัน :
(ADV) ;
suddenly ;
Related:immediately, instantly, at once, promptly, quickly, right away, quickly, then and there ;
Syn:ทันที, ฉับพลัน, ทันทีทันใด, ฉับไว ;
Samp:กรมตำรวจยุติศึกครั้งนี้ได้อย่างทันควัน
ตายนึ่ง : (V) ; be withered by exposure to sunlight ; Related:withered through hot vapour, be burnt by sunlight and then die ; Def:เฉาหรือเหี่ยวเพราะถูกแดดหรือไอร้อนอย่างถูกนึ่ง ; Samp:พวงมาลัยตายนึ่งอยู่หน้ารถ เพราะถูกแดดเผาทั้งวัน
ตรีทูต :
(N) ;
disorder of the three humours of the body, vitiation of the blood, bile, and phlegm ;
Related:in great dander, in jeopardy, hazardous, critical ill, dying, on the verge of death ;
Syn:ตรีโทษ ;
Def:ลักษณะบอกอาการสามอย่างที่แสดงว่าใกล้จะตาย ;
Samp:อาการของเขาเข้าขั้นตรีทูตคงจะไม่รอดแน่ๆ
ตรีโทษ :
(N) ;
three punishments (vitiation of the blood, bile, and phlegm) ;
Related:the critical symptoms of death, the deadly fever ;
Syn:ตรีทูต ;
Def:อาการไข้ที่ลม เสมหะ เลือด ประชุมกัน 3 อย่างให้โทษ, ไข้หนักจวนจะตาย ;
Samp:โบราณว่าผู้ใดเป็นตรีโทษก่อนตายนั้นมีบาปหนัก
เบญจพรรณ :
(N) ;
primary colors red, blue, yellow, white, and black ;
Def:แม่สีทั้งห้า คือ ดำ แดง ขาว เขียว (คราม) เหลือง ;
Samp:ลวดลายของเครื่องลายครามลงด้วยสีเบญจพรรณปนเงินทองแวววาว
รุ้งพราย : (N) ; the iridescence (of shells, mother of pearl, and gems) ; Def:สีรุ้งที่เห็นในเพชร หรือเปลือกหอย
ว่าน :
(N) ;
general name for sedges, flags, orchids, hemp, and herbs ;
Def:ชื่อพรรณไม้จำพวกหนึ่ง มีหัวบ้างไม่มีหัวบ้าง อยู่ในจำพวกหญ้าและต้นไม้ ;
Samp:นอกจากเลี้ยงนกแล้ว ผมยังเลี้ยงปลากัด ปลูกบอน ว่าน ตะโก ดัดข่อย ดัดบัวใส่ตุ่มด้วย ;
Unit:ต้น
แหนม :
(N) ;
pork, shredded and salted, bound tightly with banana leaves, and eaten slightly fermented ;
Related:sour pork ;
Syn:หมูแหนม ;
Def:อาหารอย่างหนึ่ง ทำด้วยหมู หมักให้เปรี้ยว ;
Samp:ในแหนมมักมีสารกันบูดปนเปื้อนอยู่มาก
กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย : (N) ; Department of Treaties and Legal Affairs ; Related:Treaty and Legal Department, Treaty and Law Department ; Samp:บทความนี้ เป็นความผิดพลาดของผู้เขียนเองไม่ได้สะท้อนความเห็นและทัศนะของกรมสนธิสัญญาและกฎหมายทั้งสิ้น
กระโดดโลดเต้น :
(V) ;
dance and jump with joy ;
Related:jump for joy, leap with joy, be elated, overjoyed, exult, rejoice, hop and skip ;
Samp:เด็กๆ กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ
กลอกกลิ้ง : (V) ; roll to and fro ; Related:go forwards and backwards, move back and forth ; Def:เคลื่อนไหวกลับไปกลับมา ; Samp:ตั้งแต่วันนั้นมาเขามักมีเสียงหัวเราะเลื่อนลอย ดวงตากลอกกลิ้งและหวาดระแวง
ขบ 1 : (V) ; feel stiff and sore ; Related:feel fatigued and worn out ; Syn:เมื่อยขบ ; Def:อาการที่เมื่อยปวดเหมือนมีอะไรบีบหรือกดอยู่ที่ตรงนั้น เรียกว่า เมื่อยขบ ; Samp:แม่รู้สึกเมื่อยขบไปทั้งตัวจึงวานให้ลูกสาวนวดตัวให้
เข้าออก : (V) ; go in and out ; Related:go back and forth ; Syn:เข้าๆออกๆ ; Def:ผ่านเข้าผ่านออกอยู่บ่อยๆ เพื่อกิจธุระอย่างใดอย่างหนึ่ง ; Samp:สองพ่อลูกชาวญี่ปุ่นเข้าออกประเทศไทยบ่อยมากถึง 40 ครั้งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
เขิน :
(V) ;
be shallow (because of silt and sediment) ;
Related:high and dry ;
Syn:ตื้นเขิน ;
Def:ตื้นสูงเป็นเนินขึ้นมา (ใช้แก่พื้นที่ในแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง เป็นต้น) ;
Samp:ที่ตรงนี้มันเขินขึ้นมา ท้องเรือของเราก็เลยติด
ครั้งแล้วครั้งเล่า :
(ADV) ;
again and again ;
Related:over and over again, time and again, time after time ;
Def:ที่ทำหรือเป็นอย่างเดียวกันอีกหลายๆ ครั้ง ;
Samp:เขาคิดครั้งแล้วครั้งเล่าก็คิดไม่ออกว่าเอากระเป๋าสตางค์วางไว้ที่ไหน
ค่าภาษีอากร : (N) ; tax and rates ; Related:tax and duties ; Samp:ผู้กู้ยืมเงินจากทางรัฐมีพันธะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ของสัญญา รวมทั้งจะต้องชำระค่าภาษีอากร ค่าธรรมเนียม ค่าภาคหลวง และผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษแก่ฝ่ายรัฐด้วย
จองล้างจองผลาญ : (V) ; get revenge and destroy completely ; Related:get vengeance and wipe out (someone) ; Syn:ตามล้างผลาญ ; Def:คอยมุ่งทำลายอยู่ตลอด ; Samp:ไม่รู้ว่าเขาจะจองล้างจองผลาญผู้หญิงคนนี้ไปถึงไหน
ชะงุ้ม : (ADJ) ; towering and overhanging ; Related:projecting and overhanging ; Def:เป็นเพิงงุ้มลงมา
ชะลูด : (ADJ) ; erect and tall ; Related:very tall, tall and slender ; Def:เรียวยาวและสูงขึ้นไป ; Samp:บนเวทีประกวดเต็มไปด้วยนางแบบหุ่นชะลูด
ชะเวิกชะวาก : (V) ; large and deep opening ; Related:large and deep break ; Def:เปิดกว้างและลึกเข้าไป ; Samp:ช่องเขาเป็นเวิ้ง และชะเวิกชะวากเข้าไปลึกมาก
ช้ำเลือดช้ำหนอง : (V) ; have a bruise with pus and blood in it ; Related:have a swelling with pus and blood in it ; Def:มีเลือดและหนองคั่งอยู่ ; Samp:ี่หน้าขาของสุนัขตัวโปรดของลูกชายผมนั้นบวมเป่ง และช้ำเลือดช้ำหนอง
ซ่อนหา :
(N) ;
hide-and-seek ;
Related:hide-and-go-seek ;
Def:การเล่นของเด็กชนิดหนึ่ง ฝ่ายหนึ่งซ่อน ฝ่ายหนึ่งหา ;
Samp:ผู้ใหญ่มักกล่าวทำนองว่า อย่าเล่นซ่อนหาตอนกลางคืน เดี๋ยวผีจะเอาไปซ่อน
เดินไปเดินมา : (V) ; walk up and down ; Related:walk back and forth, walk to and fro ; Samp:เจ้าของไข้เดินไปเดินมาด้วยความกังวลใจ
ได้เสีย :
(V) ;
gain and lose ;
Related:gain and spend ;
Syn:เสีย, ได้เงินเสียเงิน, ได้ผล ;
Samp:นักพนันมักทุ่มเงินโดยไม่สนว่าได้เสียเท่าไหร่
ตรีมูรติ : (N) ; three-formed (Brahma, Siva and Vishnu) ; Related:triple form (Brahma, Siva and Vishnu) ; Syn:ตรีพรหม ; Def:ชื่อเรียกเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ 3 องค์ คือ พระพรหม (พระผู้สร้าง) พระวิษณุหรือพระนารายณ์ (พระผู้รักษา) พระศิวะหรือพระอิศวร (พระผู้ทำลาย) ; Samp:วรรณคดีที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพราหมณ์ จะมีการกล่าวถึงตรีมูรติอยู่เสมอๆ
ต่องแต่ง :
(ADV) ;
to and fro ;
Related:backwards and forwards ;
Syn:กระต่องกระแต่ง ;
Def:อย่างเหมือนอาการที่ห้อยแกว่งไปมา ;
Samp:นกกะปูดถูกยิงมันจึงบินต่องแต่งเหนือพื้นดินไม่ถึงสิบเมตร
ต่องแต่ง :
(V) ;
sway to and fro ;
Related:swing and fro ;
Syn:กระต่องกระแต่ง ;
Def:อาการที่ห้อยแกว่งไปมา ;
Samp:ผ้าขี้ริ้วต่องแต่งอยู่บนยอดไม้ตั้งแต่เมื่อวาน
ตะเบ็งมาน :
(ADJ) ;
style of wearing the scarf-cloth of Thai (started from behind passed under the armpits across the chest and tied behind the neck) ;
Related:way of wearing a scarf crossed over the bosom and tied at the back of the neck ;
Syn:ตะแบงมาน ;
Def:วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวแล้วเอาชายทั้ง 2 ไขว้ไปผูกที่ต้นคอ ;
Samp:หญิงโบราณจะห่มผ้าแบบตะเม็งมานเวลาออกทำงานหรือเวลาบ้านเมืองคับขัน
ตะแบงมาน :
(ADJ) ;
style of wearing the scarf-cloth of Thai (started from behind passed under the armpits across the chest and tied behind the neck) ;
Related:way of wearing a scarf crossed over the bosom and tied at the back of the neck ;
Syn:ตะเบ็งมาน ;
Def:วิธีห่มผ้าแถบแบบหนึ่ง โดยคาดผ้าอ้อมตัวแล้วเอาชายทั้ง 2 ไขว้ไปผูกที่ต้นคอ
ตีชิงวิ่งราว : (V) ; snatch and run away ; Related:rob and run away ; Syn:ฉกชิงวิ่งราว ; Def:ทำร้ายร่างกายแล้วแย่งเอาทรัพย์สินวิ่งหนีไป ; Samp:ขโมยตีชิงวิ่งราวกระเป๋าสตางค์คนที่กำลังยืนรอรถเมล์
ทักนิมิต : (V) ; ask and answer in binding the boundary of a temple ; Related:ask and answer during the tying of monastic boundary ; Def:ถามตอบในการผูกพัทธสีมา