dish the dirt : (SL) ; นินทา ; Related:ซุบซิบนินทา

gossip : (VI) ; นินทา ; Related:ซุบซิบ, ว่าร้าย ; Syn:blab, rumor

talk : (VI) ; นินทา ; Syn:gossip

tittle tattle : (VI) ; นินทา ; Syn:gossip

tattle : (VI) ; ซุบซิบนินทา ; Related:นินทา ; Syn:chatter, piffle

cank 2 : (SL) ; เม้าท์ ; Related:นินทา

fan the breeze : (SL) ; พูดซุบซิบ ; Related:นินทา

ติฉินนินทา : (V) ; blame ; Related:condemn, censure, defame, revile, slander, gossip, talk, speak ill of ; Syn:นินทา ; Def:ว่ากล่าวผู้อื่นลับหลัง ; Samp:ชาวบ้านพากันติฉินนินทาหล่อน ที่ชอบคบหากับผู้ชายหลายคน

การนินทา : (N) ; gossip ; Related:chitchat ; Syn:การพูดลับหลัง, การซุบซิบ, การซุบซิบนินทา ; Ant:การสดุดี, การยกย่อง, การสรรเสริญ ; Def:คำติเตียนลับหลัง ; Samp:การนินทาคนอื่นเป็นบาป

ว่าร้าย : (V) ; gossip ; Syn:นินทา, ว่า ; Def:ติเตียนลับหลัง ; Samp:ไม่ว่าจะถูกนินทาว่าร้ายต่างๆ นานาเรื่องที่เขามีบ้านเล็กบ้านใหญ่อย่างไรเขาก็ไม่ใส่ใจ

พูดว่า : (V) ; blame ; Related:accuse ; Syn:นินทา, กล่าวร้าย, กล่าวโทษ, ตำหนิ, ว่าร้าย ; Samp:เขาพูดว่าให้เจ็บแสบเธอยังไม่รู้สึกตัวอีกหรือ

โจษจัน : (V) ; rumor ; Related:rumour, spread, say, be hearsay ; Syn:ลือ, เล่าลือ, นินทา ; Def:พูดกันเซ็งแซ่, เล่าลือกันอื้ออึง ; Samp:บรรดาพ่อค้าแม่ขายในตลาดโจษจันกันว่า เขาค้ายาเสพติด

วางเพลิง 2 : (V) ; defame ; Related:slander, frame, malign ; Syn:ว่าร้าย, ให้ร้าย, นินทา ; Def:พูดให้ร้ายคนอื่นลับหลัง

ขี้ปาก : (N) ; gossip ; Related:idle talk, rumor ; Syn:คำนินทา ; Def:คำที่พูดนินทากันหรือกล่าวอ้างถึงในทางที่ไม่ดี ; Samp:ด้วยความจำเป็นและกลัวขี้ปากชาวบ้านแม่จึงจำต้องรับหนูไปอยู่ด้วย

นินทา : น. คําติเตียนลับหลัง. ก. ติเตียนลับหลัง. (ป., ส. นินฺทา ว่า การติเตียน).

โลกธรรม : [โลกกะ–] น. เรื่องของโลก, ธรรมดาของโลก ทาง พระพุทธศาสนามี ๘ ประการ คือ ๑. มีลาภ ๒. เสื่อมลาภ ๓. มียศ ๔. เสื่อมยศ ๕. สรรเสริญ ๖.นินทา ๗. สุข ๘. ทุกข์. (ส. โลกธรฺม; ป. โลกธมฺม).

ว่าลับหลัง : ก. นินทา. ว่าแล้ว เป็นคำที่เปล่งออกมาในลักษณะที่ได้เกิดเหตุการณ์ ตรงตามที่ได้ว่าไว้ เช่น ฉันว่าแล้วไม่ผิดไปจากที่พูดเลย. ว่าแล้วว่าอีก ก. พูดหรือตำหนิติเตียนซ้ำซาก.

อนิฏฐารมณ์ : [อะนิดถารม] น. อารมณ์หรือสิ่งที่ไม่น่าปรารถนาไม่น่าพอใจ ได้แก่ ความเสื่อมลาภ ความเสื่อมยศ นินทา ทุกข์, ตรงข้ามกับ อิฏฐารมณ์. (ป. อนิฏฺ?ารมฺมณ).

ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก : (สํา) ว. ต่อหน้าทำเป็นดี แต่พอลับหลังก็นินทาหรือ หาทางทำร้าย, หน้าไหว้หลังหลอก ก็ว่า.

โลกธรรม : ธรรมที่มีประจำโลก, ธรรมดาของโลก, ธรรมที่ครอบงำสัตว์โลก และสัตว์โลกก็เป็นไปตามมัน มี ๘ อย่าง คือ มีลาภ ไม่มีลาภ มียศ ไม่มียศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์

มิตตปฏิรูป : คนเทียมมิตร, มิตรเทียม ไม่ใช่มิตรแท้ มี ๔ พวก ได้แก่ ๑.คนปอกลอก มีลักษณะ ๔ คือ ๑.คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ๒.ยอมเสียน้อยโดยหวังจะเอาให้มาก ๓.ตัวมีภัย จึงมาช่วยทำกิจของเพื่อน ๔.คบเพื่อนเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของตัว ๒.คนดีแต่พูด มีลักษณะ ๔ คือ ๑.ดีแต่ยกของหมดแล้วมาปราศรัย ๒.ดีแต่อ้างของยังไม่มีมาปราศรัย ๓.สงเคราะห์ด้วยสิ่งหาประโยชน์มิได้ ๔.เมื่อเพื่อนมีกิจ อ้างแต่เหตุขัดข้อง ๓.คนหัวประจบ มีลักษณะ ๔ คือ ๑.จะทำชั่วก็เออออ ๒.จะทำดีก็เออออ ๓.ต่อหน้าสรรเสริญ ๔.ลับหลังนินทา ๔.คนชวนฉิบหาย มีลักษณะ ๔ คือ ๑.คอยเป็นเพื่อนดื่มน้ำเมา ๒.คอยเป็นเพื่อนเที่ยวกลางคืน ๓.คอยเป็นเพื่อนเที่ยวดูการเล่น ๔.คอยเป็นเพื่อนไปเล่นการพนัน

โลกาธิปไตย : ความถือโลกเป็นใหญ่ คือ ถือความนิยมหรือเสียงกล่าวว่า ของชาวโลกเป็นสำคัญ หวั่นไหวไปตามเสียงนินทาและสรรเสริญ จะทำอะไรก็มุ่งจะเอาใจหมู่ชน หาความนิยม ทำตามที่เขานิยมกัน หรือคอยแต่หวั่นกลัวเสียงกล่าวว่า, พึงใช้แต่ในทางดีหรือในขอบเขตที่เป็นความดี คือ เคารพเสียงหมู่ชน (ข้อ ๒ ในอธิปไตย ๓)

อนิฏฐารมณ์ : อารมณ์ที่ไม่น่าปรารถนา, สิ่งที่คนไม่อยากได้ไม่อยากพบ แสดงในแง่ตรงข้ามกับกามคุณ ๕ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ที่ไม่น่ารักใคร่ ไม่น่าชอบใจ แสดงในแง่โลกธรรม ได้แก่ ความเสื่อมลาภ ความเสื่อมยศ การนินทา และความทุกข์ เทียบ อิฏฐารมณ์

ครหติ : ก. ติเตียน, กล่าวโทษ, ใส่ร้าย, นินทา, ด่า, ว่าร้าย

ทุฏฺฐุ : (อัพ. นิบาต) ติเตียน, นินทา, ชั่ว, ร้าย, น่าเกลียด. วิ ทุฏฺฐาติ ปวตฺตติ อสุนฺทรภาเวนาติ ทุฏฺฐุ. ทุปุพฺโพ, ฐา คตินิวุตฺติยํ, อุ. ฏฺสํโยโค.

นินฺทติ : ก. ตำหนิ, ติเตียน, ด่าว่า, นินทา

อปวทติ : ก. ว่ากล่าว, ตักเตือน, ติเตียน, นินทา

อปินาม : (อัพ. นิบาต) ลงในอรรถสรรเสริญ, นินทา, สัญญา, ปฏิญาณ.