Dictionary : English, Thai, Pali. Link : Lexitron, RoyDict, BudDict, ETipitaka, PpmDict, Longdo.
Search: ฝ่ายมารดา, มารดา, ฝ่าย , then ฝาย, ฝ่าย, ฝายมารดา, ฝ่ายมารดา, มารดา .

Eng-Thai Lexitron Dict : ฝ่ายมารดา, more than 7 found, display 1-7
  1. maternal : (ADJ) ; เกี่ยวกับมารดา ; Related:ทางแม่, ด้านมารดา, ฝ่ายมารดา ; Syn:parental
  2. hand : (N) ; ขาไพ่ ; Related:ฝ่าย
  3. mater : (N) ; แม่ (คำไม่เป็นทางการ) ; Related:มารดา ; Syn:mother
  4. mom : (N) ; แม่ (คำไม่เป็นทางการ) ; Related:มารดา ; Syn:mum
  5. momma : (N) ; แม่ ; Related:มารดา ; Syn:mummy, momma
  6. mommy : (N) ; แม่ ; Related:มารดา ; Syn:mummy
  7. Eng-Thai Lexitron Dict : ฝ่ายมารดา, more results...

Thai-Eng Lexitron Dict : ฝ่ายมารดา, more than 7 found, display 1-7
  1. ฝ่ายมารดา : (N) ; maternal ; Syn:ข้างมารดา
  2. ฝ่าย : (CLAS) ; group ; Related:side, party, faction ; Syn:ข้าง, พวก, ส่วน ; Samp:การทำให้เครื่องใหม่ครอบคลุมรุ่นเก่านั้น มีประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย ; Unit:ฝ่าย
  3. ฝ่าย : (N) ; side ; Related:party, sector, faction ; Syn:ข้าง, พวก, ส่วน ; Samp:เวลาเกิดสงคราม จะมีการจับลูกเมียของฝ่ายตรงข้ามไปทรมาน เพื่อให้สามีบอกความลับ ; Unit:ฝ่าย
  4. มารดา : (N) ; mother ; Syn:แม่, คุณแม่, มาตุรงค์, มาตุเรศ, มารดร, มาดา, มาตา, ชนนี, มาตุ ; Ant:บิดา ; Samp:เด็กมักชอบไปปรึกษาปัญหากับเพื่อนมากกว่าปรึกษาบิดามารดาหรือครูอาจารย์ ; Unit:คน, ท่าน
  5. มารดา : (N) ; mother ; Syn:แม่, คุณแม่, มาตุรงค์, มาตุเรศ, มารดร, มาดา, มาตา, ชนนี, มาตุ ; Ant:บิดา ; Samp:เด็กมักชอบไปปรึกษาปัญหากับเพื่อนมากกว่าปรึกษาบิดามารดาหรือครูอาจารย์ ; Unit:คน, ท่าน
  6. ฝ่ายรุกราน : (N) ; aggressor ; Syn:ฝ่ายบุก, ฝ่ายรุก ; Ant:ฝ่ายรับ ; Def:ฝ่ายที่เข้าไประรานผู้อื่น ; Samp:ฝ่ายรุกรานไม่ทันตั้งตัวจึงตกเป็นฝ่ายรับอย่างตั้งตัวไม่ติด ; Unit:ฝ่าย
  7. ฝ่ายรับ : (N) ; defense ; Related:defensive ; Syn:ฝ่ายตั้งรับ ; Ant:ฝ่ายรุก, ฝ่ายบุก ; Def:ฝ่ายที่ตั้งรับการโจมตีจากอีกฝ่ายหนึ่ง ; Samp:ในสงครามอ่าวเปอร์เซีย อิรักเป็นฝ่ายรับต่อการทำสงครามทางอากาศการทิ้งระเบิดของฝ่ายพันธมิตร ; Unit:ฝ่าย
  8. Thai-Eng Lexitron Dict : ฝ่ายมารดา, more results...

Royal Institute Thai-Thai Dict : ฝ่ายมารดา, more than 5 found, display 1-5
  1. ฝ่าย : น. ข้าง, พวก, ส่วน.
  2. มารดร, มารดา : [มานดอน, มานดา] น. แม่. (ป. มาตา; ส. มาตฺฤ).
  3. มาติกะ : ว. ฝ่ายมารดา, ของมารดา. (ป.).
  4. แปดสาแหรก : [-แหฺรก] น. คําเรียกต้นวงศ์สกุล คือ บิดามารดาของ ปู่และย่า ๔ ของตาและยาย ๔ รวมเป็น ๘ ที่เป็นผู้ดีทั้งฝ่ายบิดาและ มารดา เรียกว่า ผู้ดีแปดสาแหรก (เทียบสาแหรกที่มีข้างละ ๔ ขา ๒ ข้างเป็น ๘ ขา). (ดู ผู้ดีแปดสาแหรก ที่ ผู้). แปดเหลี่ยมแปดคม, แปดเหลี่ยมสิบสองคม (สํา) ว. มีเล่ห์เหลี่ยมมาก.
  5. ฝ่ายค้าน : น. ฝ่ายที่แสดงความเห็นโต้แย้งความเห็นของฝ่ายเสนอ ในการโต้วาที, ตรงข้ามกับ ฝ่ายเสนอ, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของพรรคที่ไม่ได้ร่วมเป็นรัฐบาล ซึ่งทําหน้าที่ค้านรัฐบาลในรัฐสภา, โดยปริยายหมายถึงผู้ที่มีความเห็นโต้แย้งกับผู้อื่น เช่น เรื่องนี้แม้ใคร จะเห็นด้วยก็ตาม แต่ฉันขอเป็นฝ่ายค้าน.
  6. Royal Institute Thai-Thai Dict : ฝ่ายมารดา, more results...

Budhism Thai-Thai Dict : ฝ่ายมารดา, more than 5 found, display 1-5
  1. อุภโตสุชาต : เกิดมีแล้วทั้ง ๒ ฝ่าย คือ ทั้งฝ่ายมารดาทั้งฝ่ายบิดา หมายความว่า มีสกุลสูง เป็นเชื้อสายวรรณะนั้นต่อเนื่องกันมาโดยตลอด ทั้งฝ่ายบิดาและฝ่ายมารดา, เป็นคุณสมบัติที่พวกพราหมณ์และกษัตริย์บางวงศ์ถือเป็นสำคัญมาก
  2. โกลิยวงศ์ : ชื่อวงศ์กษัตริย์ข้างฝ่ายพระพุทธมารดา ที่ครองกรุงเทวทหะ; พระสิริมหามายา พุทธมารดา และ พระนางพิมพา ชายาของเจ้าชายสิทธัตถะ เป็นเจ้าหญิงฝ่ายโกลิยวงศ์
  3. พากุละ : พระมหาสาวกองค์หนึ่ง เป็นบุตรเศรษฐีเมืองโกสัมพี มีเรื่องเล่าว่า เมื่อยังเป็นทารก ขณะที่พี่เลี้ยงนำไปอาบ***เล่นที่แม่*** ท่านถูกปลาใหญ่กลืนลงไปอยู่ในท้อง ต่อมาปลานั้นถูกจับได้ที่เมืองพาราณสี และถูกขายให้แก่ภรรยาเศรษฐีเมืองพาราณสี ภรรยาเศรษฐีผ่าท้องปลาพบเด็กแล้วเลี้ยงไว้เป็นบุตร ฝ่ายมารดาเดิมทราบข่าว จึงขอบุตรคืน ตกลงกันไม่ได้ จนพระราชาทรงตัดสินให้เด็กเป็นทายาทของทั้ง ๒ ตระกูล ท่านจึงได้ชื่อว่า "พากุละ" แปลว่า คน ๒ ตระกูล หรือผู้ที่ ๒ ตระกูลเลี้ยง ท่านอยู่ครองเรือนมาจนอายุ ๘๐ ปี จึงได้ฟังพระศาสดาทรงแสดงพระธรรมเทศนา มีความเลื่อมใสขอบวชแล้วบำเพ็ญเพียรอยู่ ๗ วัน ได้บรรลุพระอรหัต ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะในทางเป็นผู้มีอาพาธน้อย คือสุขภาพดี; พักกุละ ก็เรียก
  4. วิสาขา : ชื่อมหาอุบาสิกาสำคัญในครั้งพุทธกาล เป็นธิดาของธนัญชัยเศรษฐี และนางสุมนา เกิดที่เมืองภัททิยะในแคว้นอังคะ ได้บรรลุโสดาปัตติผล ตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ ต่อมาได้ย้ายตามบิดามาอยู่ที่เมืองสาเกตในแคว้นโกศลแล้วได้สมรสกับนายปุณณวัฒน์บุตรชายมิคารเศรษฐีแห่งเมืองสาวัตถี และย้ายไปอยู่ในตระกูลฝ่ายสามี นางสามารถกลับใจมิคารเศรษฐี บิดาของสามี ซึ่งนับถือครนถ์ ให้หันมานับถือพระพุทธศาสนา มิคารเศรษฐีนับถือนางมาก และเรียกนางวิสาขาเป็นแม่ นางวิสาขาจึงได้ชื่อใหม่อีกอย่างหนึ่งว่า มิคารมารดา (มารดาของมิคารเศรษฐี) นางวิสาขาได้อุปถัมภ์บำรุงพระภิกษุสงฆ์อย่างมากมาย และได้ให้ขายเครื่องประดับประจำตัวตั้งแต่แต่งงาน เรียกชื่อว่า มหาลดาปสาธน์ ซึ่งมีค่าสูงยิ่ง นำเงินมาสร้างวัดถวายแด่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์คือ มิคารมาตุปราสาท วัดบุพพาราม ณ พระนครสาวัตถี นางวิสาขามีบุตรหลานมากมายล้วนมีสุขภาพดีแทบทั้งนั้น แม้นางจะมีอายุยืนถึง ๑๒๐ ปี ก็ดูไม่แก่ และเป็นบุคคลที่ได้รับความนับถืออย่างกว้างขวางในสังคม ได้รับยกย่องจากพระศาสดาว่าเป็นเอตทัคคะ ในบรรดาทายิกาทั้งปวง
  5. สารีบุตร : พระอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า เกิดที่หมู่บ้านนาลกะ (บางแห่งเรียกนาลันทะ) ไม่ไกลจากเมืองราชคฤห์ เป็นบุตรแห่งตระกูลหัวหน้าหมู่บ้านนั้น บิดาชื่อวังคันตพราหมณ์ มารดาชื่อ สารี จึงได้นามว่าสารีบุตร แต่เมื่อยังเยาว์เรียกว่า อุปติสสะ มีเพื่อนสนิทชื่อ โกลิตะ ซึ่งต่อมาคือ พระมหาโมคคัลลานะ มีน้องชาย ๓ คนชื่อ จุนทะ อุปเสนะ และเรวตะ น้องหญิง ๓ คน ชื่อจาลา อุปจาลา และสีสุปจาลา ซึ่งต่อมาได้บวชในพระธรรมวินัยทั้งหมด เมื่ออุปติสสะและโกลิตะจะบวชนั้น ทั้ง ๒ คนไปเที่ยวดูมหรสพที่ยอดเขาด้วยกัน คราวหนึ่งไปดูแล้วเกิดความสลดใจ คิดออกแสวงหาโมกขธรรม และต่อมาได้บวชอยู่ในสำนักของสัญชัยปริพาชกแต่ก็ไม่บรรลุจุดมุ่งหมาย จนวันหนึ่งอุปติสสปริพาชก พบพระอัสสชิเถระขณะท่านบิณฑบาต เกิดความเลื่อมใสติดตามไปสนทนาขอถามหลักคำสอนได้ฟังความย่อเพียงคาถาเดียวก็ได้ดวงตาเห็นธรรม กลับไปบอกข่าวแก่โกลิตะแล้วพากันไปเฝ้าพระพุทธเจ้า มีปริพาชกที่เป็นศิษย์ตามไปด้วยถึง ๒๕๐ คน ได้รับเอหิภิกขุอุปสมบททั้งหมดที่เวฬุวัน เมื่อบวชแล้วได้ ๑๕ วัน พระสารีบุตรได้ฟังพระธรรมเทศนาเวทนาปริคคหสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ทีฆนขปริพาชก ณ ถ้ำสุกรขาตา เขาคิชฌกูฏ ก็ได้บรรลุพระอรหัต ได้รับยกย่องเป็น เอตทัคคะ ในทางมีปัญญามาก และเป็น พระอัครสาวกฝ่ายขวา ท่านได้เป็นกำลังสำคัญของพระพุทธเจ้าในการประกาศพระศาสนา และได้รับยกย่องเป็น พระธรรมเสนาบดี คำสอนของท่านปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏกเป็นอันมาก เช่น สังคีติสูตร และทสุตตรสูตร ที่เป็นแบบอย่างแห่งการสังคายนา เป็นต้น ท่านปรินิพพานก่อนพระพุทธเจ้าไม่กี่เดือนเมื่อจวนจะปรินิพพาน ท่านเดินทางไปโปรดมารดาของท่านซึ่งยังเป็นมิจฉาทิฐิให้มารดาได้เป็นพระโสดาบันแล้ว ปรินิพพานที่บ้านเกิด ด้วยปักขันทิกาพาธ หลังจากปลงศพแล้วพระจุนทะน้องชายของท่านนำอัฐิธาตุไปถวายพระบรมศาสดา พระองค์ตรัสว่าให้ก่อสถูปบรรจุอัฐิธาตุของท่านไว้ ณ พระเชตวัน เมืองสาวัตถี (อรรถกถาว่าท่านปรินิพพานในวันเพ็ญเดือน ๑๒ จึงเท่ากับ ๖ เดือนก่อนพุทธปรินิพพาน)
  6. Budhism Thai-Thai Dict : ฝ่ายมารดา, more results...

ETipitaka Pali-Thai Dict : ฝ่ายมารดา, more than 5 found, display 1-5
  1. ปุพฺพการี : (ปุ.) บุคคลผู้ทำก่อนโดยปกติ,ฯลฯ, บุคคลผู้ทำอุปการะก่อน, บุพพการี บุคคล. ในกฏหมาย คำบุพการี หมายถึง บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด (ทั้งสองฝ่าย). ในทางพุทธศาสนาหมาย ความกว้างกว่านี้ มีอธิบายในบุคคลหาได้ยาก ๒.
  2. มาติปกฺข : (ปุ.) ฝ่ายข้างมารดา.
  3. ปกฺข : ป. ข้าง, ส่วน, ฝ่าย, สีข้าง, ปีก, ปักษ์, คนขาเขยก, พรรค
  4. อกฺกา : (อิต.) แม่, มารดา (ลูกบูชา).อจฺจฺปูชายํ, อโณ, จฺจสฺสกฺโก, อิตฺถิยํ อา.ส. อกฺกา.
  5. ภิกฺขุนี : (อิต.) ภิกษุณี พระผู้หญิง ของพระพุทธ ศาสนา เป็นบริษัทที่ ๒ ในบริษัท ๔. ภิกฺขุ+อินี อิต. เป็นพระที่บวชจากสงฆ์ ๒ ฝ่าย คือจากภิกษุณีสงฆ์ และภิกษุสงฆ์รักษาสิกขาบท (ศีล) ๓๑๑ สิกขาบท.
  6. ETipitaka Pali-Thai Dict : ฝ่ายมารดา, more results...

Pramaha Prasert Mantasevi's Thai-Pali Dict : ฝ่ายมารดา, 2 found, display 1-2
  1. ฝ่าย : ปกฺโข, ปกฺขโก, ภาโค
  2. เกื้อกูลมารดา : มตฺเตยฺยา

(0.2457 sec)