brilliant : (ADJ) ; แพรวพราย ; Related:พรายแสง, พริ้งพราย, ส่องแสง, แพรวพราว

melodious : (ADJ) ; ไพเราะ ; Related:เพราะพริ้ง, น่าฟัง ; Syn:agreeable, pleasing, sweet ; Ant:harsh, discordant

musical : (ADJ) ; ไพเราะ ; Related:เพราะพริ้ง, เสนาะหู ; Syn:harmonious, tuneful, sweet, pleasing ; Ant:tuneles, harsh

พริ้ง : (ADJ) ; beautiful ; Related:pretty, good-looking, charming, attractive, graceful ; Syn:สวยพริ้ง, งามพริ้ง, เพริศพริ้ง ; Ant:ขี้เหร่ ; Def:สวยงามมาก ; Samp:พอเธอแต่งชุดเจ้าสาวแล้วก็สวยพริ้งราวกับเทพธิดา

พริ้งเพริศ : (ADV) ; magnificently ; Related:splendidly, gorgeously, prettily ; Syn:พริ้ง, เพริศพริ้ง ; Def:งามเฉิดฉาย ; Samp:เธอบรรจงแต่งตัวอย่างบรรเจิดพริ้งเพริศรอเวลาให้เขามารับไปงานเลี้ยง

พริ้งเพริศ : (V) ; be charming ; Related:be lovely, be enchanting, be graceful, be splendid ; Syn:เพริศพริ้ง, พริ้ง ; Def:งามเฉิดฉาย ; Samp:งานราตรีในค่ำคืนนี้ สาวๆ พริ้งเพริศกันทุกคน

พริ้งพราย : (V) ; be graceful ; Related:be pretty, be elegant, be beautiful, be nice-looking ; Syn:พริ้งเพรา, พริ้มพราย ; Ant:ขี้เหร่ ; Def:งามลออ ; Samp:ถึงแม้เธอจะอายุ 40 แล้ว แต่ก็ยังพริ้งพรายไม่เปลี่ยน

พริ้งเพรา : (V) ; be pretty ; Related:be nice-looking, be beautiful, be charming, be graceful, be attractive, be fair ; Syn:พริ้งพราย, จิ้มลิ้ม, เพริศพริ้ง, พริ้มเพรา ; Def:งามแฉล้มน่าเอ็นดูหรือชวนให้มอง ; Samp:เธอดูพริ้งเพราน่าเอ็นดูกว่าเมื่อก่อนมากโขอยู่

พริ้งเพรา : (ADJ) ; pretty ; Related:nice-looking, beautiful, charming, graceful, attractive, fair ; Syn:พริ้งพราย, จิ้มลิ้ม, เพริศพริ้ง, พริ้มเพรา ; Def:ที่งามแฉล้มน่าเอ็นดูหรือชวนให้มอง ; Samp:สาวๆ ที่หมู่บ้านนี้หน้าตาพริ้งเพราน่ามองกันทุกคนเชียว

เพริศพริ้ง : (ADJ) ; beautiful ; Syn:พริ้งเพริศ, เพิศ ; Def:งามเฉิดฉาย

พริ้ง : [พฺริ้ง] ว. งามงอน, สะสวยมาก, ชอบแต่งตัวให้งดงามและทันสมัย อยู่เสมอ, เช่น สวยพริ้ง แต่งตัวงามพริ้ง.

พริ้งเพรา : ว. สวยงาม, เพราพริ้ง หรือ เพราเพริศ ก็ว่า.

พริ้งเพริศ : ว. งามเฉิดฉาย, เพริศพริ้ง ก็ว่า.

พริ้งพราย : ว. งามลออ.

เพริศพริ้ง : ว. งามเฉิดฉาย, พริ้งเพริศ ก็ว่า.

มหากัสสปะ : พระมหาสาวกองค์หนึ่ง เกิดที่หมู่บ้านพราหมณ์ชื่อมหาติตถะในแคว้นมคธ เป็นบุตรของกปิลพราหมณ์ มีชื่อเดิมว่าปิปผลิมาณพ เมื่ออายุ ๒๐ ปี ได้สมรสกับนางภัททกาปิลานี ตามความประสงค์ของมารดาบิดาแต่ไม่มีความยินดีในชีวิตครองเรือน ต่อมาทั้งสามีภรรยาได้สละเรือน นุ่งห่มผ้ากาสาวะออกบวชกันเอง เดินทางออกจากบ้านแล้วแยกกันที่ทาง ๒ แพร่ง ปิปผลิมาณพได้พบพระพุทธเจ้าที่พหุปุตตกนิโครธระหว่างเมืองราชคฤห์กับเมืองนาลันทา ได้อุปสมบทด้วยโอวาท ๓ ข้อ และได้ถวายผ้าสังฆาฏิของตนแลกกับจีวรเก่าของพระพุทธเจ้า แล้วสมาทานธุดงค์ ครั้นบวชล่วงไปแล้ว ๗ วัน ก็ได้บรรลุพระอรหัต เป็นผู้มีปฏิปทามักน้อย สันโดษ ได้รับยกย่องว่าเป็นเอตทัคคะ ในทางถือธุดงค์ เมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ท่านได้เป็นผู้ริเริ่มและเป็นประธานในปฐมสังคายนา ท่านดำรงชีวิตสืบมาจนอายุ ๑๒๐ ปี จึงปรินิพพาน

อีริต : (วิ.) ขว้าง. ซัด, โยน, พรุ่ง, ยิง, ไหว, เคลื่อนไหว, สั่น. อีรฺ คติกมฺปนเขเปสุ อิโต, โต วา.