Dictionary : English, Thai, Pali. Link : Lexitron, RoyDict, BudDict, ETipitaka, PpmDict, Longdo.
Search: รังเกียจ .

Eng-Thai Lexitron Dict : รังเกียจ, more than 7 found, display 1-7
  1. mind : (VI) ; รังเกียจ ; Related:เกี่ยง, คัดค้าน, ไม่เต็มใจทำบางสิ่ง ; Syn:dislike, disfavor ; Ant:like, favor, esteem
  2. repulse : (VT) ; รังเกียจ ; Related:ไม่ชอบ, ขยะแขยง ; Syn:disgust
  3. spit on : (PHRV) ; รังเกียจ ; Related:ไม่นับถือ, ไม่ชอบ ; Syn:spit at
  4. spit upon : (PHRV) ; รังเกียจ ; Related:ไม่นับถือ, ไม่ชอบ ; Syn:spit at
  5. Eng-Thai Lexitron Dict : รังเกียจ, more results...

Thai-Eng Lexitron Dict : รังเกียจ, more than 7 found, display 1-7
  1. ข้อรังเกียจ : (N) ; objection ; Related:offensive ; Def:สิ่งที่รู้สึกเกลียดหรือไม่พอใจ ; Samp:เขาถูกตั้งข้อรังเกียจว่าเป็นคนทุจริต
  2. ความรังเกียจ : (N) ; dislike ; Related:hate, hatred, detestability, loathing ; Syn:ความเกลียด, ความเกลียดชัง ; Ant:ความชอบ ; Samp:หากเราแสดงความรังเกียจต่อผู้ป่วยโรคเอดส์ จะทำให้กำลังใจของผู้ป่วยลดลง
  3. น่ารังเกียจ : (ADJ) ; disgusting ; Related:hateful ; Syn:น่าสะอิดสะเอียน, น่าเกลียด, น่าขยะแขยง ; Ant:น่ารัก, น่าพึงพอใจ ; Samp:ฉันยอมรับพฤติกรรมน่ารังเกียจของเพื่อนร่วมงานคนนี้ไม่ได้
  4. น่ารังเกียจ : (V) ; be disgusting ; Related:be hateful, be repulsive ; Syn:น่าสะอิดสะเอียน, น่าเกลียด, น่าขยะแขยง ; Ant:น่ารัก, น่าพึงพอใจ
  5. ไม่รังเกียจ : (V) ; do not mind ; Related:approve
  6. เดียด : (V) ; hate ; Related:abhor, detest, dislike, be jealous, be envious, loathe, disgust ; Syn:เกลียด, ริษยา, ชัง, รังเกียจ, เดียดฉันท์ ; Ant:ชอบ, รัก ; Samp:ศาสนาพราหมณ์สมัยพระเวทซึ่งเป็นศาสนามีอภัยธรรมไม่รังเกียจ หรือเดียดด้วยอคติแก่ศาสนาอื่น
  7. เดียดฉันท์ : (V) ; dislike ; Related:have a bias against, detest, be prejudiced against, loathe, disgust, hate ; Syn:ไม่พอใจ, รังเกียจ, ลำเอียง, เกลียด, ขยะแขยง ; Ant:ชอบ, รัก ; Samp:ในสังคมวัตถุนิยมเช่นปัจจุบัน หากแต่งตัวมอซอ ผู้คนก็จะรังเกียจเดียดฉันท์
  8. Thai-Eng Lexitron Dict : รังเกียจ, more results...

Royal Institute Thai-Thai Dict : รังเกียจ, more than 5 found, display 1-5
  1. รังเกียจ : ก. เกลียดเพราะรู้สึกขยะแขยงหรือไม่ชอบใจเป็นต้น.
  2. รังเกียจเดียดฉันท์ : ก. ลำเอียงด้วยความรังเกียจ.
  3. รังเกียจรังงอน : ก. ตั้งแง่ตั้งงอนทำเป็นรังเกียจเพราะไม่ชอบใจ.
  4. เกียง : ก. เกี่ยง, รังเกียจ, ไม่ลงรอย, เกี่ยงแย่ง, เกี่ยงแย้ง, เช่น คนใดอันรังร้าย จิตรพิศเกียงกล. (จารึกวัดโพธิ์), โดยมากใช้เป็น เกี่ยง.
  5. เดียดฉันท์ : ก. ไม่พอใจด้วย, รังเกียจ, ลําเอียง.
  6. Royal Institute Thai-Thai Dict : รังเกียจ, more results...

Budhism Thai-Thai Dict : รังเกียจ, 8 found, display 1-8
  1. กายคตาสติ : สติที่เป็นไปในกาย, สติอันพิจารณากายให้เห็นตามสภาพที่มีส่วนประกอบ ซึ่งล้วนเป็นของไม่สะอาด ไม่งาม น่ารังเกียจ ทำให้เกิดความรู้เท่าทัน ไม่หลงใหลมัวเมา
  2. กายคติ : สติที่เป็นไปในกาย, สติอันพิจารณากายให้เห็นตามสภาพที่มีส่วนประกอบ ซึ่งล้วนเป็นของไม่สะอาด ไม่งาม น่ารังเกียจ ทำให้เกิดความรู้เท่าทัน ไม่หลงใหลมัวเมา
  3. กุกกุจจะ : ความรำคาญใจ, ความเดือดร้อนใจ เช่นว่า สิ่งดีงามที่ควรทำ ตนมิได้ทำ สิ่งผิดพลาดเสียหายไม่ดีไม่งาม ที่ไม่ควรทำ ตนได้ทำแล้ว, ความยุ่งใจ กลุ้มใจ กังวลใจ, ความรังเกียจหรือกินแหนงในตนเอง, ความระแวงสงสัย เช่นว่า ตนได้ทำความผิดอย่างนั้นๆ แล้วหรือมิใช่ สิ่งที่ตนได้ทำไปแล้วอย่างนั้นๆ เป็นความผิดข้อนี้ๆ เสียแล้วกระมัง
  4. ครุธรรม : ธรรมอันหนัก, หลักความประพฤติสำหรับนางภิกษุณีจะพึงถือเป็นเรื่องสำคัญอันต้องปฏิบัติด้วยความเคารพไม่ละเมิดตลอดชีวิต มี ๘ ประการ คือ ๑.ภิกษุณีแม้บวชร้อยพรรษาแล้ว ก็ต้องกราบไหว้ภิกษุแม้บวชวันเดียว ๒.ภิกษุณีจะอยู่ในวัดที่ไม่มีภิกษุไม่ได้ ๓.ภิกษุณีต้องไปถามวันอุโบสถและเข้าไปฟังโอวาทจากภิกษุทุกกึ่งเดือน ๔.ภิกษุณีอยู่จำพรรษาแล้วต้องปวารณาในสงฆ์ ๒ ฝ่ายโดยสถานทั้ง ๓ คือ โดยได้เห็น โดยได้ยิน โดยรังเกียจ (รังเกียจหมายถึง ระแวงสงสัยหรือประพฤติกรรมอะไรที่น่าเคลือบแคลง) ๕.ภิกษุณีต้องอาบัติหนัก ต้องประพฤติมานัตในสงฆ์ ๒ ฝ่าย (คือ ทั้งภิกษุสงฆ์และภิกษุณีสงฆ์) ๑๕ วัน ๖.ภิกษุณีต้องแสวงหาอุปสัมปทาในสงฆ์ ๒ ฝ่าย เพื่อนางสิกขมานา ๗.ภิกษุณีไม่พึงด่าไม่พึงบริภาษภิกษุไม่ว่าจะโดยปริยายใดๆ ๘.ไม่ให้ภิกษุณีว่ากล่าวภิกษุแต่ภิกษุว่ากล่าวภิกษุณีได้
  5. ฉายาปาราชิก : เงาแห่งปาราชิก คือ ประพฤติตนในฐานะที่ล่อแหลมต่อปาราชิก อาจเป็นปาราชิกได้ แต่จับไม่ถนัด เรียกว่าฉายาปาราชิก เป็นผู้ที่สงฆ์รังเกียจ
  6. ปฏิกูล : น่าเกลียด, น่ารังเกียจ
  7. มูล : (ในคำว่า “อธิกรณ์อันภิกษุจะพึงยกขึ้นว่าได้นั้น ต้องเป็นเรื่องมีมูล”) เค้า, ร่องรอย, ลักษณะอาการที่ส่อว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น, เรื่องที่จัดว่ามีมูล มี ๓ อย่าง คือ เรื่องที่ได้เห็นเอง ๑ เรื่องที่ได้ยินเอง หรือผู้อื่นบอกและเชื่อว่าเป็นจริง ๑ เรื่องที่รังเกียจโดยอาการ ๑
  8. วินัยมุข : มุขแห่งวินัย, หลักใหญ่ๆ หรือหัวข้อสำคัญๆ ทีเป็นเบื้องต้นแห่งพระวินัย หรือเป็นปากทางนำเข้าสู่วินัยเป็นชื่อหนังสือที่สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงรจนาขึ้น เพื่อชี้ประโยชน์แห่งพระวินัยมุ่งช่วยให้พระภิกษุสามเณรตั้งอยู่ในปฏิบัติพองาม ผู้ไม่เคร่งจะได้รู้จักสำรวมรักษามรรยาทสมเป็นสมณะฝ่ายผู้เคร่งครัดเกินไปจะได้หายงมงาย ไม่สำคัญตนว่าดีกว่าผู้อื่น ตั้งรังเกียจผู้อื่นเพราะเหตุผลเล็กน้อย เพียงสักว่าธรรมเนียมหรือแม้ชักนำผู้อื่นในปฏิบัติอันดี ต่างจะได้อานิสงส์คือไม่มีวิปฏิสาร; ทรงมุ่งหมายเพื่อจะแต่งแก้หนังสือบุพพสิกขาวัณณนาของพระอมราภิรักขิต (อมร เกิด) เจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส; จัดพิมพ์เป็น ๓ เล่ม ใช้เป็นแบบเรียนนักธรรมชั้นตรี ชั้นโท และชั้นเอก ตามลำดับ

ETipitaka Pali-Thai Dict : รังเกียจ, more than 5 found, display 1-5
  1. เทสฺสติ : ก. เกลียด, รังเกียจ, ชัง, ขยะแขยง
  2. กากามสก : ค. ผู้จับต้องเหมือนอย่างกา, ผู้กินอาหารที่จับจด, ผู้รังเกียจอาหาร
  3. กุกฺกุจฺจ : (นปุ.) ความรำคาญ, ความเดือดร้อน, ความสงสัย, ความรังเกียจ (ความรู้สึกสะ อิดสะเอียนในการทำความชั่ว). วิ. กุจฺฉิตํ กโรตีติ กุกฺกตํ. จิตฺตํ; ตํสมงฺคี วา, ตสฺส ภาโว วา กุกฺกุจฺจํ. กุจฺฉิตํ กุตํ กุกฺกุตํ. ตสฺส ภาโว กุกฺกุจฺจํ. กุกฺกุจฺจก
  4. ชิคุจฺฉก : ค. ผู้ติเตียน, ผู้รังเกียจ, ผู้ไม่พอใจ
  5. ชิคุจฺฉติ : ก. รังเกียจ, ไม่พอใจ
  6. ETipitaka Pali-Thai Dict : รังเกียจ, more results...

Pramaha Prasert Mantasevi's Thai-Pali Dict : รังเกียจ, not found

(0.0239 sec)