Dictionary: English,Thai,Pali

Republican : (N) ; สมาชิกพรรครีพับริกันของสหรัฐอเมริกา ; Syn:registered Republican, conservative

oval : (ADJ) ; ูซึ่งเป็นรูปไข่ ; Related: ; Syn:egg-shaped, ovoid

yeast : (N) ; การเตรียมการอบ ; Related:

blind : (ADJ) ; ขาดการเตรียมพร้อม

buildup : (N) ; การเตรียมการ ; Related:

confection : (N) ; การเตรียมผสม

countdown : (N) ; การเตรียมการขั้นสุดท้าย (เช่น ก่อนพิธีแต่งงาน)

รี : (ADJ) ; oval ; Related: ; Syn:เรียว ; Samp:ใบหน้ารูปวงรีของหล่อนเป็นที่พึงตาแก่ผู้พบเห็น

เทวนาครี : (N) ; Devanagari ; Related: ; Syn:อักษรเทวนาครี ; Def:อักษรที่ใช้สำหรับเขียนภาษาสันสกฤต ; Samp:ใบลานผูกนี้เขียนด้วยตัวเทวนาครี

การเตรียมพร้อม : (N) ; preparation ; Related: ; Def:เตรียมตัวเตรียมกำลังไว้ให้พร้อม ; Samp:นักเรียน นักศึกษาควรมีการเตรียมพร้อม

ภาษาครีโอล : (N) ; Creole ; Def:ภาษาที่เกิดจากการผสมของภาษา 2 ภาษาขึ้นไป และใช้ภาษานั้นเป็นภาษาแม่ ; Samp:มาเลเซียมีภาษาครีโอลอยู่หนึ่งภาษา คือ ภาษาครีโอลโปรตุเกส หรือเรียกอีกชื่อว่า ปาเปียคริสตัง ; Unit:ภาษา

แม่รีแม่แรด : (N) ; busy woman ; Related: ; Samp:เธอทำตัวเป็นแม่รีแม่แรดไม่น่าดู

รอรี : (V) ; wait for ; Related: ; Syn:รีรอ, ลังเล, ชักช้า ; Def:คอยอย่างจดๆ จ้องๆ อย่างลังเล ; Samp:เขาหันมองรอบตัวเพื่อหาที่ไว้ซุง ชะเง้อคอลังเลและรอรีจนช้างหยุดเดิน

รอรี : (ADV) ; hesitatingly ; Related: ; Syn:รีรอ, ลังเล, ชักช้า ; Def:คอยอย่างจดๆ จ้องๆ อย่างลังเล ; Samp:พอเห็นรถเมล์ปรับอากาศแล่นมาจอดที่ป้าย ผมจึงไม่ยืนรอรีอีกต่อไป

รี : ว. เรียว, ถ้ากลมเรียวอย่างรูปไข่ เรียกว่า กลมรี, ถ้ายาวเรียวและมีหัวท้าย อย่างเมล็ดข้าวสารเรียกว่า ยาวรี, ไม่กลม เช่น วงรี, ยาว เช่น หันรีหันขวาง หอรีหอขวาง.

รี ๆ, รอ ๆ : ว. แสดงอาการลังเลใจ, ไม่แน่ใจที่จะทําลงไป, เช่น มัวรี ๆ รอ ๆ อยู่นั่นแหละ เมื่อไรจะตัดสินใจเสียที.

รี ๆ ขวาง ๆ : ก. กีดเกะกะ, เก้งก้าง, เช่น คนไม่เคยเข้าครัวจับอะไรไม่ถูก รี ๆ ขวาง ๆ ไปหมด, ขวาง ๆ รี ๆก็ว่า. ว. มีลักษณะหรือกิริยาท่าทางที่เกะกะเก้งก้าง เช่น จะข้ามถนนก็ไม่ข้ามมัวแต่ยืนรี ๆ ขวาง ๆ อยู่นั่นแหละ.

ขวาง ๆ รี ๆ : ก. กีดเกะกะ, เก้งก้าง, รี ๆ ขวาง ๆ ก็ว่า.

หริตกี, หรีตกี : [หะริตะกี, หะรีตะกี] น. ต้นสมอไทย. (ป., ส.).

โคธาวรี : ชื่อแม่น้ำสายหนึ่ง ระหว่างเมืองอัสสกะ กับ เมืองอาฬกะ พราหมณ์พาวรี ตั้งอาศรมสอนไตรเพทอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำสายนี้ (มักเพี้ยนเป็นโคธาวารี)

พาวรี : พราหมณ์ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่ตั้งอาศรมสอนไตรเพทแก่ศิษย์อยู่ฝั่งแม่น้ำโคธาวรี ณ สุดเขตแดนแคว้นอัสสกะ ได้ส่งศิษย์ ๑๖ คนไปถามปัญหาพระศาสดา เพื่อจะทดสอบว่าพระองค์เป็นพระสัมมาสัมพุทธะจริงหรือไม่ ภายหลังได้รับคำตอบแล้ว ศิษย์ชื่อปิงคิยะซึ่งเป็นหลานของท่านได้กลับมาเล่าเรื่องและแสดงคำตอบปัญหาของพระศาสดา ทำให้ท่านได้บรรลุธรรมเป็นพระอนาคามี

สังฆการี : เจ้าหน้าที่ผู้ทำการสงฆ์, เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับสงฆ์ในงานหลวง, เจ้าหน้าที่ผู้เป็นพนักงานในการพิธีสงฆ์ มีมาแต่โบราณสมัยอยุธยาสังกัดในกรมสังฆการี ซึ่งรวมอยู่ด้วยกันกับกรมธรรมการเรียกรวมว่ากรมธรรมการสังฆการี เดิมเรียกว่า สังกะรีหรือสังการี เปลี่ยนเรียกสังฆการีในรัชกาลที่ ๔ ต่อมาเมื่อตั้งกระทรวงธรรมการใน พ.ศ.๒๔๓๒ กรมธรรมการสังฆการีเป็นกรมหนึ่งในสังกัดของกระทรวงนั้น จนถึง พ.ศ.๒๔๕๔ กรมสังฆการีจึงแยกเป็นกรมต่างหากกันกับกรมธรรมการ ต่อมาใน พ.ศ.๒๔๗๖ กรมสังฆการีถูกยุบลงเป็นกองสังกัดในกรมธรรมการกระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาอีกใน พ.ศ.๒๔๘๔ กรมธรรมการเปลี่ยนชื่อเป็นกรมศาสนา และในคราวท้ายสุด พ.ศ.๒๕๑๕ กองสังฆการีได้ถูกยุบเลิกไป และมีกองศาสนูปถัมภ์ขึ้นมาแทน ปัจจุบันจึงไม่มีสังฆการี; บางสมัยสังฆการีมีอำนาจหน้าที่กว้างขวาง มิใช่เป็นเพียงเจ้าพนักงานในราชพิธีเท่านั้น แต่ทำหน้าที่ชำระอธิกรณ์พิจารณาโทษแก่พระสงฆ์ผู้ล่วงละเมิดสิกขาบทประพฤติผิดธรรมวินัยด้วย

สารี : ชื่อนางพราหมณ์ ผู้เป็นมารดาของพระสารีบุตร

สารีบุตร : พระอัครสาวกเบื้องขวาของพระพุทธเจ้า เกิดที่หมู่บ้านนาลกะ (บางแห่งเรียกนาลันทะ) ไม่ไกลจากเมืองราชคฤห์ เป็นบุตรแห่งตระกูลหัวหน้าหมู่บ้านนั้น บิดาชื่อวังคันตพราหมณ์ มารดาชื่อ สารี จึงได้นามว่าสารีบุตร แต่เมื่อยังเยาว์เรียกว่า อุปติสสะ มีเพื่อนสนิทชื่อ โกลิตะ ซึ่งต่อมาคือ พระมหาโมคคัลลานะ มีน้องชาย ๓ คนชื่อ จุนทะ อุปเสนะ และเรวตะ น้องหญิง ๓ คน ชื่อจาลา อุปจาลา และสีสุปจาลา ซึ่งต่อมาได้บวชในพระธรรมวินัยทั้งหมด เมื่ออุปติสสะและโกลิตะจะบวชนั้น ทั้ง ๒ คนไปเที่ยวดูมหรสพที่ยอดเขาด้วยกัน คราวหนึ่งไปดูแล้วเกิดความสลดใจ คิดออกแสวงหาโมกขธรรม และต่อมาได้บวชอยู่ในสำนักของสัญชัยปริพาชกแต่ก็ไม่บรรลุจุดมุ่งหมาย จนวันหนึ่งอุปติสสปริพาชก พบพระอัสสชิเถระขณะท่านบิณฑบาต เกิดความเลื่อมใสติดตามไปสนทนาขอถามหลักคำสอนได้ฟังความย่อเพียงคาถาเดียวก็ได้ดวงตาเห็นธรรม กลับไปบอกข่าวแก่โกลิตะแล้วพากันไปเฝ้าพระพุทธเจ้า มีปริพาชกที่เป็นศิษย์ตามไปด้วยถึง ๒๕๐ คน ได้รับเอหิภิกขุอุปสมบททั้งหมดที่เวฬุวัน เมื่อบวชแล้วได้ ๑๕ วัน พระสารีบุตรได้ฟังพระธรรมเทศนาเวทนาปริคคหสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ทีฆนขปริพาชก ณ ถ้ำสุกรขาตา เขาคิชฌกูฏ ก็ได้บรรลุพระอรหัต ได้รับยกย่องเป็น เอตทัคคะ ในทางมีปัญญามาก และเป็น พระอัครสาวกฝ่ายขวา ท่านได้เป็นกำลังสำคัญของพระพุทธเจ้าในการประกาศพระศาสนา และได้รับยกย่องเป็น พระธรรมเสนาบดี คำสอนของท่านปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏกเป็นอันมาก เช่น สังคีติสูตร และทสุตตรสูตร ที่เป็นแบบอย่างแห่งการสังคายนา เป็นต้น ท่านปรินิพพานก่อนพระพุทธเจ้าไม่กี่เดือนเมื่อจวนจะปรินิพพาน ท่านเดินทางไปโปรดมารดาของท่านซึ่งยังเป็นมิจฉาทิฐิให้มารดาได้เป็นพระโสดาบันแล้ว ปรินิพพานที่บ้านเกิด ด้วยปักขันทิกาพาธ หลังจากปลงศพแล้วพระจุนทะน้องชายของท่านนำอัฐิธาตุไปถวายพระบรมศาสดา พระองค์ตรัสว่าให้ก่อสถูปบรรจุอัฐิธาตุของท่านไว้ ณ พระเชตวัน เมืองสาวัตถี (อรรถกถาว่าท่านปรินิพพานในวันเพ็ญเดือน ๑๒ จึงเท่ากับ ๖ เดือนก่อนพุทธปรินิพพาน)

กุมาริกา, - รี : อิต. กุมารี, เด็กหญิง, เด็กหญิงวัยรุ่น, หญิงพรหมจารี

ธนุการ, - รี : ป. ผู้ทำธนู, ผู้ทำศร, ช่างธนู, ช่างศร

รีสี : อิต. ทองเหลือง

ขาริ ขารี : (อิต.) ขารี ชื่อมาตราตวง ๔ มาณิ- กาเป็น ๑ ขารี วิ. จตุสฺสนฺนํ มาณิกานํ สฺมูโห ขารี นาม. แปลว่า สาแหรก ก็มี.

ขาริ, ขารี : อิต. มาตราตวงเท่ากับ ๓ มาณิกา

กรรมการสมาคม : สกมฺมการี

กระลำพัก : กาฬานุสารี [ป.]

กะลำพัก : กาฬานุสารี

กุมารี, เด็กหญิง : กุมารี, กุมาริกา, โกมารี [อิ.]

แก่นไม้หอม : กาฬานุสารี, กาฬิยํ