Dictionary : English, Thai, Pali. Link : Lexitron, RoyDict, BudDict, ETipitaka, PpmDict, Longdo.
Search: ล้วนแล้ว, แล้ว, ล้วน , then ลว, ลวน, ล้วน, ล้วนแล้ว, แล้ว .

Eng-Thai Lexitron Dict : ล้วนแล้ว, more than 7 found, display 1-7
  1. already : (ADV) ; แล้ว ; Related:ที่เกิดแล้วก่อนหน้านี้, เรียบร้อย, เรียบร้อยแล้ว ; Syn:before
  2. by now : (ADV) ; แล้ว ; Syn:already
  3. fasten off : (PHRV) ; ผูกไว้กับ...แล้ว ; Related:ติดเสร็จแล้ว
  4. plump down : (PHRV) ; จ่าย(เงิน)แล้ว ; Syn:plank down, plank out, plonk down
  5. Big deal! : (SL) ; แล้วไง ; Related:มีอะไร, แล้วยังไง
  6. What of it? : (IDM) ; แล้วทำไม ; Related:มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยนะ, แล้วอย่างไรล่ะ
  7. bobs your uncle : (SL) ; แล้วมันก็จะทำงาน
  8. Eng-Thai Lexitron Dict : ล้วนแล้ว, more results...

Thai-Eng Lexitron Dict : ล้วนแล้ว, more than 7 found, display 1-7
  1. ล้วน : (ADV) ; all ; Related:solely, entirely, completely, totally ; Syn:ทั้งนั้น, ล้วนแล้ว, ตลอด, ทั้งหมด, ทั้งปวง, ทั้งสิ้น, ทั้งมวล ; Def:ไม่มีสิ่งชนิดอื่นปน ; Samp:ความขัดแย้งในคณะรัฐบาลล้วนเป็นสาเหตุทำให้คะแนนนิยมรัฐบาลลดลง
  2. แล้ว : (ADV) ; already ; Def:เสร็จสิ้นหรือสุดสิ้นลง ; Samp:กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการปิดถนนบางนา-ตราดทั้งหมดแล้ว
  3. แล้ว : (ADV) ; already
  4. ล้วนแล้วแต่ : (PRON) ; all ; Syn:ล้วนแต่ ; Samp:หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ทุกแห่งล้วนแล้วแต่มีคอมพิวเตอร์ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
  5. ล้วนแต่ : (PRON) ; all ; Syn:ล้วนแล้วแต่ ; Samp:คนในห้องนั้นล้วนแต่เขี้ยวลากดินทั้งนั้นเลย
  6. แล้วก็แล้วกันไป : (V) ; let bygones be bygones ; Syn:แล้วไป, แล้วกันไป ; Def:เสร็จสิ้นไป, ผ่านไปแล้ว ; Samp:เรื่องที่แล้วก็แล้วกันไป อย่าไปใส่ใจเลย
  7. แล้วก็ : (CONJ) ; then ; Related:and then, and afterwards, and subsequently, after that ; Def:เป็นคำเชื่อมสำหรับต่อความแสดงกิริยาที่กระทำภายหลัง ; Samp:แกนนำระดับล่างจะเป็นเรื่องของคนที่นำกลุ่มเข้ามาชุมนุม แล้วก็มาจัดการดำเนินการชุมนุมให้ต่อเนื่อง
  8. Thai-Eng Lexitron Dict : ล้วนแล้ว, more results...

Royal Institute Thai-Thai Dict : ล้วนแล้ว, more than 5 found, display 1-5
  1. ล้วนด้วย, ล้วนแล้ว : ว. แล้วด้วย, แล้วไปด้วย, เช่น ล้วนด้วยดอกไม้ สีขาวล้วนแล้วไปด้วยทอง.
  2. แล้ว : ว. ลักษณะอาการกระทําใด ๆ เสร็จ สิ้น จบ ล่วงไป หรือสุดสิ้นลง เช่น กินแล้ว ทำแล้ว นอนแล้วหรือต่อแต่นั้นเริ่มใหม่อีกระยะหนึ่ง (จะเป็นการกระทําอย่างเดียวกันหรือต่างกันแล้วแต่กรณี) เช่น กิน แล้วนอน ขึ้นรถแล้วลงเรือ.
  3. ล้วน, ล้วน : ว. แท้, เป็นอย่างเดียวกันหมด, ไม่มีอะไรปน, เช่น ทองล้วน เงิน ล้วน ๆ.
  4. แล้ว : ก. จบ, สิ้น, เสร็จ, เช่น งานแล้วหรือยัง.
  5. แล้วด้วย, แล้วไปด้วย : ว. ล้วนด้วย เช่น แล้วไปด้วยทอง; สำเร็จด้วย เช่น แล้วด้วยใจ.
  6. Royal Institute Thai-Thai Dict : ล้วนแล้ว, more results...

Budhism Thai-Thai Dict : ล้วนแล้ว, more than 5 found, display 1-5
  1. ชาตปฐพี : ดินเกิดเอง, ปฐพีแท้ คือมีดินร่วนล้วน มีดินเหนียวล้วน หรือมีของอื่น เช่นหินกรวด กระเบื้อง แร่ และทรายน้อย มีดินร่วน ดินเหนียวมากดินนี้ประสงค์เอาที่ยังไม่ได้เผาไฟกองดินร่วนก็ดี กองดินเหนียวก็ดี มีฝนตกรดเกิน ๔ เดือนมาแล้วนับเข้าในปฐพีแท้
  2. ตถาคต : พระนามอย่างหนึ่งของพระพุทธเจ้า เป็นคำที่พระพุทธเจ้าทรงเรียกหรือตรัสถึงพระองค์เอง แปลได้ความหมาย ๘ อย่าง คือ ๑.พระผู้เสด็จมาแล้วอย่างนั้น คือ เสด็จมาทรงบำเพ็ญพุทธจริยา เพื่อประโยชน์แก่ชาวโลก เป็นต้น เหมือนอย่างพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ อย่างไรก็อย่างนั้น ๒.พระผู้เสด็จไปแล้วอย่างนั้น คือทรงทำลายอวิชชาสละปวงกิเลสเสด็จไปเหมือนอย่างพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนๆ อย่างไรก็อย่างนั้น ๓.พระผู้เสด็จมาถึงตถลักษณะ คือ ทรงมีพระญาณหยั่งรู้เข้าถึงลักษณะที่แท้จริงของสิ่งทั้งหลายหรือของธรรมทุกอย่าง๔.พระผู้ตรัสรู้ตถธรรมตามที่มันเป็น คือ ตรัสรู้อริยสัจ ๔ หรือปฏิจจสมุปบาทอันเป็นธรรมที่จริงแท้แน่นอน ๕.พระผู้ทรงเห็นอย่างนี้ คือ ทรงรู้เท่าทันสรรพอารมณ์ที่ปรากฏแก่หมู่สัตว์ทั้งเทพและมนุษย์ ซึ่งสัตวโลกตลอดถึงเทพถึงพรหมได้ประสบและพากันแสวงหา ทรงเข้าใจสภาพที่แท้จริง ๖.พระผู้ตรัสอย่างนั้น (หรือมีพระวาจาที่แท้จริง) คือ พระดำรัสทั้งปวงนับแต่ตรัสรู้จนเสด็จดับขันธปรินิพพาน ล้วนเป็นสิ่งแท้จริงถูกต้อง ไม่เป็นอย่างอื่น ๗.พระผู้ทำอย่างนั้น คือ ตรัสอย่างใดทำอย่างนั้น ทำอย่างใด ตรัสอย่างนั้น ๘.พระผู้เป็นเจ้า (อภิภู) คือ ทรงเป็นผู้ใหญ่ยิ่งเหนือกว่าสรรพสัตว์ตลอดถึงพระพรหมที่สูงสุด เป็นผู้เห็นถ่องแท้ ทรงอำนาจ เป็นราชาที่พระราชาทรงบูชา เป็นเทพแห่งเทพ เป็นอินทร์เหนือพระอินทร์ เป็นพรหมเหนือประดาพรหม ไม่มีใครจะอาจวัดหรือจะทดเทียมพระองค์ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และวิมุตติญาณทัสสนะ
  3. นวังคสัตถุศาสน์ : คำสั่งสอนของพระศาสดา มีองค์ ๙, พุทธพจน์มีองค์ประกอบ ๙ อย่าง, ส่วนประกอบ ๙ อย่างที่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า คือ ๑.สุตตะ (พระสูตรทั้งหลาย รวมทั้งพระวินัยปิฎกและนิทเทส) ๒.เคยยะ (ความที่มีร้อยแก้วและร้อยกรองผสมกัน ได้แก่ พระสูตรที่มีคาถาทั้งหมด) ๓.เวยยากรณะ (ไวยากรณ์ คือความร้อยแก้วล้วน ได้แก่ พระอภิธรรมปิฎกทั้งหมด และพระสูตรที่ไม่มีคาถาเป็นต้น).๕.อุทาน (ได้แก่ พระคาถาพุทธอุทาน ๘๒ สูตร) ๖.อิติวุตตกะ (พระสูตรที่เรียกว่าอิติวุตตกะ ๑๑๐ สูตร) ๗.ชาตกะ (ชาดก ๕๕๐ เรื่อง) ๘.อัพภูตธรรม (เรื่องอัศจรรย์ คือพระสูตรที่กล่าวถึงข้ออัศจรรย์ต่างๆ) ๙.เวทัลละ (พระสูตรแบบถามตอบที่ให้เกิดความรู้และความพอใจแล้ว ซักถามยิ่งๆ ขึ้นไป เช่น จูฬเวทัลลสูตร มหาเวทัลลสูตร เป็นต้น); เขียนอย่างบาลีเป็น นวังคสัตถุสาสน์ ดู ไตรปิฎก
  4. วิสาขา : ชื่อมหาอุบาสิกาสำคัญในครั้งพุทธกาล เป็นธิดาของธนัญชัยเศรษฐี และนางสุมนา เกิดที่เมืองภัททิยะในแคว้นอังคะ ได้บรรลุโสดาปัตติผล ตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ ต่อมาได้ย้ายตามบิดามาอยู่ที่เมืองสาเกตในแคว้นโกศลแล้วได้สมรสกับนายปุณณวัฒน์บุตรชายมิคารเศรษฐีแห่งเมืองสาวัตถี และย้ายไปอยู่ในตระกูลฝ่ายสามี นางสามารถกลับใจมิคารเศรษฐี บิดาของสามี ซึ่งนับถือครนถ์ ให้หันมานับถือพระพุทธศาสนา มิคารเศรษฐีนับถือนางมาก และเรียกนางวิสาขาเป็นแม่ นางวิสาขาจึงได้ชื่อใหม่อีกอย่างหนึ่งว่า มิคารมารดา (มารดาของมิคารเศรษฐี) นางวิสาขาได้อุปถัมภ์บำรุงพระภิกษุสงฆ์อย่างมากมาย และได้ให้ขายเครื่องประดับประจำตัวตั้งแต่แต่งงาน เรียกชื่อว่า มหาลดาปสาธน์ ซึ่งมีค่าสูงยิ่ง นำเงินมาสร้างวัดถวายแด่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์คือ มิคารมาตุปราสาท วัดบุพพาราม ณ พระนครสาวัตถี นางวิสาขามีบุตรหลานมากมายล้วนมีสุขภาพดีแทบทั้งนั้น แม้นางจะมีอายุยืนถึง ๑๒๐ ปี ก็ดูไม่แก่ และเป็นบุคคลที่ได้รับความนับถืออย่างกว้างขวางในสังคม ได้รับยกย่องจากพระศาสดาว่าเป็นเอตทัคคะ ในบรรดาทายิกาทั้งปวง
  5. สุภัททะ : ปัจฉิมสิกขิสาวก (สาวกผู้ทันเห็นองค์สุดท้าย) ของพระพุทธเจ้า เรียกสั้นๆ ว่า ปัจฉิมสาวก เดิมเป็นพราหมณ์ตระกูลใหญ่ ต่อมาออกบวชเป็นปริพาชก อยู่ในเมืองกุสินารา ในวันที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน สุภัททปริพาชกได้ยินข่าวแล้วคิดว่าตนมีข้อสงสัยอยู่อย่างหนึ่ง อยากจะขอให้พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเพื่อแก้ข้อสงสัยนั้นเสียก่อนที่จะปรินิพพาน จึงเดินทางไปยังสาลวัน ตรงไปหาพระอานนท์ แจ้งความประสงค์ขอเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา พระอานนท์ได้ห้ามไว้ เพราะเกรงว่าพระองค์เหน็ดเหนื่อยอยู่แล้ว จะเป็นการรบกวนให้ทรงลำบาก สุภัททปริพาชกก็คะยั้นคะยอจะขอเข้าเฝ้าให้ได้ พระอานนท์ก็ยืนกรานห้ามอยู่ถึง ๓ วาระ จนพระผู้มีพระภาคทรงได้ยินเสียงโต้ตอบกันนั้น จึงตรัสสั่งพระอานนท์ว่าสุภัททะมุ่งหาความรู้ มิใช่ประสงค์จะเบียดเบียนพระองค์ ขอให้ปล่อยให้เขาเข้าเฝ้าเถิด สุภัททปริพาชกเข้าเฝ้าแล้ว ทูลถามว่า สมณพราหมณ์เจ้าลัทธิที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย คือ เหล่าครูทั้ง ๖ นั้น ล้วนได้ตรัสรู้จริงทั้งหมดตามที่ตนปฏิญญา หรือได้ตรัสรู้เพียงบางท่านหรือไม่มีใครตรัสรู้จริงเลย พระพุทธเจ้าทรงห้ามเสียและตรัสว่าจะทรงแสดงธรรม คือ หลักการหรือหลักความจริงให้ฟัง แล้วตรัสว่า อริยมรรคมีองค์ ๘ หาไม่ได้ในธรรมวินัยใด สมณะ (คืออริยบุคคลทั้ง ๔) ก็หาไม่ได้ในธรรมวินัยนั้น อริยมรรคมีองค์ ๘ หาได้ในธรรมวินัยใด สมณะก็หาได้ในธรรมวินัยนั้น อริยมรรคมีองค์ ๘ หาได้ในธรรมวินัยนี้ สมณะทั้ง ๔ จึงมีในธรรมวินัยนี้ ลัทธิอื่นๆ ว่างจากสมณะ และตรัสสรุปว่า ถ้าภิกษุทั้งหลายเป็นอยู่โดยชอบ โลกก็จะไม่ว่างจากพระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อจบพระธรรมเทศนา สุภัททปริพาชกเลื่อมใสทูลขอบรรพชาอุปสมบท พระพุทธเจ้าตรัสสั่งพระอานนท์ให้บวชสุภัททะในสำนักของพระองค์ โดยประทานพุทธานุญาตพิเศษให้ยกเว้นไม่ต้องอยู่ติตถิยปริวาส ท่านสุภัททะบวชแล้วไม่นาน (อรรถกถาว่าในวันนั้นเอง) ก็ได้บรรลุอรหัตตผล นับเป็นพุทธปัจฉิมสักขิสาวก
  6. Budhism Thai-Thai Dict : ล้วนแล้ว, more results...

ETipitaka Pali-Thai Dict : ล้วนแล้ว, more than 5 found, display 1-5
  1. จาตุรงฺคสนฺนิปาต : (ปุ.) การประชุมพร้อมด้วย องค์สี่, การประชุมประกอบด้วยองค์สี่, การประชุมมีองค์สี่. จาตุรงคสันนิบาตเป็น ชื่อของการประชุมในวันมาฆบูชาเมื่อพระ พุทธเจ้าตรัวรู้แล้วได้ ๙ เดือน องค์สี่คือ. – ภิกษุที่มาประชุม ๑๒๕๐ องค์ ล้วน เป็นพระอรหันต์ ภิกษุสงฆ์ทั้งหมดนั้นเป็นเอหิภิกขุ – อุปสัมปทา ภิกษุสงฆ์เหล่านั้นมากันเองโดยมิได้ นัดหมาย และ วันนั้นเป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะ
  2. เกวล : (วิ.) เดียว, อย่างเดียว, ทั้งปวง, ทั้งมวล ทั้งหมด, ทั้งสิ้น, สิ้นเชิง, มาก, ส่วนมาก, จำนวนมาก,ไม่ระคน, ล้วน, ล้วนๆ, แข็งแรง ,มั่นคง, โดยมาก, ไกวัล. เกวฺ ชนเน, อโล.
  3. จิตฺตกต : (วิ.) มีวิจิตรอันทำแล้ว, ทำให้งดงาม, แล้ว, ทำให้วิจิตรแล้ว.
  4. ลว : ป. น้อย; การเกี่ยว, การเก็บ; การหยด, การตก
  5. ลวน : นป. การเก็บเกี่ยว
  6. ETipitaka Pali-Thai Dict : ล้วนแล้ว, more results...

Pramaha Prasert Mantasevi's Thai-Pali Dict : ล้วนแล้ว, more than 5 found, display 1-5
  1. ก้มลงแล้ว : โอนต [กิ.]
  2. กรรมที่ทำแล้วมไม่เป็นอันทำ : อกิริยา [อิ.]
  3. กระจาย, ทา, ละเลงแล้ว : อุปตฺต [กิ.]
  4. กระทบแล้ว : อาสชฺช, อุปหจฺจ [กิต.]
  5. กระเพื่อมแล้ว : กมฺปิต [กิ.]
  6. Pramaha Prasert Mantasevi's Thai-Pali Dict : ล้วนแล้ว, more results...

(0.4186 sec)