Dictionary : English, Thai, Pali. Link : Lexitron, RoyDict, BudDict, ETipitaka, PpmDict, Longdo.
Search: แหวกว่าย, แหวก, ว่าย , then พ่าย, วาย, ว่าย, หวก, หวกวาย, แหวก, แหวกว่าย .

Eng-Thai Lexitron Dict : แหวกว่าย, more than 7 found, display 1-7
  1. swim : (VI) ; ว่ายน้ำ ; Related:ว่าย ; Syn:dive, splash, bathe
  2. thrust through : (PHRV) ; แหวก (ทางผ่าน)
  3. swim for : (PHRV) ; ว่ายไปทาง ; Related:ว่ายเข้าหา
  4. backstroke 2 : (VI) ; ว่ายน้ำท่ากรรเชียง
  5. bathing : (N) ; ว่ายน้ำ ; Syn:swimming
  6. dip into : (PHRV) ; ว่ายน้ำระยะสั้น
  7. fin 1 : (VT) ; ว่ายน้ำโดยการใช้ตีนกบ
  8. Eng-Thai Lexitron Dict : แหวกว่าย, more results...

Thai-Eng Lexitron Dict : แหวกว่าย, more than 7 found, display 1-7
  1. แหวกว่าย : (V) ; swim ; Syn:ว่าย, ว่ายน้ำ ; Def:เคลื่อนตัวไปมาในน้ำ ; Samp:ฝูงเป็ดกำลังแหวกว่ายอยู่ในคูน้ำใกล้สถานีรถไฟ
  2. ว่าย : (V) ; swim ; Syn:แหวกว่าย ; Def:เคลื่อนไปโดยอาศัยกำลังแขน ขาเป็นต้น แหวกไปในน้ำหรือในอากาศ ; Samp:พอฉันว่ายไปถึงฝั่งฉันก็หมดแรงเลย แทบจะไม่มีแรงก้าวขึ้นฝั่ง
  3. แหวก : (V) ; part ; Related:make a part in, seperate ; Def:แยกให้เป็นช่อง เช่น แหวกม่าน, แยกสิ่งที่ปิดบังหรือกีดขวางให้เป็นช่องทาง เช่น แหวกหญ้า แหวกผม ; Samp:ทุกคนพากันแหวกกอหญ้าฝ่าเข้าไปในสวน
  4. แหวก : (V) ; part ; Related:break into ; Syn:แยก
  5. ว่ายน้ำ : (V) ; swim ; Syn:ว่าย ; Def:เคลื่อนไปโดยอาศัยกำลังแขน ขา หรือ ครีบ หาง แหวกไปในน้ำ ; Samp:เมื่อก่อนนี้ก็ไปว่ายน้ำที่สปอร์ตคลับเป็นประจำ
  6. แหวกแนว : (ADJ) ; unconventional ; Syn:แปลก ; Def:ที่เป็นสิ่งใหม่ๆ ไม่ซ้ำแบบใคร ; Samp:เขามีไอเดียแหวกแนวมาเสนออยู่บ่อยๆ
  7. แหวกแนว : (V) ; innovate ; Related:be different from, create something new and original, break new ground ; Syn:แปลก, ประหลาด ; Def:ทำไม่ซ้ำแบบใคร ; Samp:ความคิดของเขาแหวกแนวไม่เหมือนอาจารย์ทั่วไป
  8. Thai-Eng Lexitron Dict : แหวกว่าย, more results...

Royal Institute Thai-Thai Dict : แหวกว่าย, more than 5 found, display 1-5
  1. แหวกว่าย : ก. เคลื่อนไปโดยอาศัยกำลังแขน ขาหรือครีบ หาง แหวกไป ในน้ำหรือในอากาศ, โดยปริยายหมายถึงเวียนว่ายตายเกิด ในความว่า แหวกว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร.
  2. ว่าย : ก. เคลื่อนไปโดยอาศัยกําลังแขน ขา ครีบ หรือ หาง แหวกไปในนํ้า หรือในอากาศ.
  3. แหวก : [แหฺวก] ก. แยกให้เป็นช่อง, แยกสิ่งที่ปิดบังหรือกีดขวางให้เป็นช่องทาง เช่น แหวกม่าน แหวกหญ้า แหวกผม; ฝ่าสิ่งที่กีดขวางเข้ามาหรือออกไป เช่น แหวกวงล้อมข้าศึก.
  4. ว่ายฟ้า : (วรรณ) ก. เคลื่อนไปในอากาศ เช่น ไก่ฟ้าวานว่ายฟ้า หาวหน หาสมรมายล เถื่อนท้องฯ. (ตะเลงพ่าย).
  5. แหวกแนว : ก. ทําไม่ซํ้าแบบใคร เช่น เขาชอบแหวกแนว. ว. ที่ชอบทำใน สิ่งที่ไม่ซ้ำแบบใคร เช่น เขาเป็นคนแหวกแนว.
  6. Royal Institute Thai-Thai Dict : แหวกว่าย, more results...

Budhism Thai-Thai Dict : แหวกว่าย, more than 5 found, display 1-5
  1. ควัมปติ : ชื่อกุลบุตรผู้เป็นสหายของพระยสะ เป็นบุตรเศรษฐีเมืองพาราณสี ได้ทราบข่าวว่ายสกุลบุตรออกบวช จึงบวชตามพร้อมด้วยสหายอีก ๓ คน คือ วิมล สุพาหุ ปุณณชิ ต่อมาได้สำเร็จพระอรหัตทั้งหมด
  2. ไตรวัฏ : วัฏฏะ ๓, วงวน ๓ หรือวงจร ๓ ส่วนของปฏิจจสมุปบาท หมุนเวียนสืบทอดต่อๆ กันไป ทำให้มีการเวียนว่ายตายเกิด หรือวงจรแห่งทุกข์ ได้แก่ กิเลส กรรม และวิบาก (เรียกเต็มว่า ๑.กิเลสวัฏ ประกอบด้วย อวิชชา ตัณหา อุปาทาน ๒.กรรมวัฏ ประกอบด้วย สังขาร ภพ ๓.วิปากวัฏ ประกอบด้วย วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ชาติ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส) คือ กิเลสเป็นเหตุให้ทำกรรม เมื่อทำกรรมก็ได้รับวิบากคือผลของกรรมนั้น อันเป็นปัจจัยให้เกิดกิเลสแล้วทำกรรมหมุนเวียนต่อไปอีก เช่น เกิดกิเลสอยากได้ของเขา จึงทำกรรมด้วยการไปลักของเขามา ประสบวิบากคือได้ของนั้นมาเสพเสวยเกิดสุข เวทนา ทำให้มีกิเลสเหิมใจอยากได้รุนแรงและมากยิ่งขึ้นจึงยิ่งทำกรรมมากขึ้น หรือในทางตรงข้ามถูกขัดขวาง ได้รับทุกขเวทนาเป็นวิบาก ทำให้เกิดกิเลส คือโทสะแค้นเคือง แล้วพยายามทำกรรมคือประทุษร้ายเขา เมื่อเป็นอยู่อย่างนี้ วงจรจะหมุนเวียนต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
  3. ไตรวัฏฏ์ : วัฏฏะ ๓, วงวน ๓ หรือวงจร ๓ ส่วนของปฏิจจสมุปบาท หมุนเวียนสืบทอดต่อๆ กันไป ทำให้มีการเวียนว่ายตายเกิด หรือวงจรแห่งทุกข์ ได้แก่ กิเลส กรรม และวิบาก (เรียกเต็มว่า ๑.กิเลสวัฏ ประกอบด้วย อวิชชา ตัณหา อุปาทาน ๒.กรรมวัฏ ประกอบด้วย สังขาร ภพ ๓.วิปากวัฏ ประกอบด้วย วิญญาณ นามรูป สฬายตนะ ผัสสะ เวทนา ชาติ ชรามรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส) คือ กิเลสเป็นเหตุให้ทำกรรม เมื่อทำกรรมก็ได้รับวิบากคือผลของกรรมนั้น อันเป็นปัจจัยให้เกิดกิเลสแล้วทำกรรมหมุนเวียนต่อไปอีก เช่น เกิดกิเลสอยากได้ของเขา จึงทำกรรมด้วยการไปลักของเขามา ประสบวิบากคือได้ของนั้นมาเสพเสวยเกิดสุข เวทนา ทำให้มีกิเลสเหิมใจอยากได้รุนแรงและมากยิ่งขึ้นจึงยิ่งทำกรรมมากขึ้น หรือในทางตรงข้ามถูกขัดขวาง ได้รับทุกขเวทนาเป็นวิบาก ทำให้เกิดกิเลส คือโทสะแค้นเคือง แล้วพยายามทำกรรมคือประทุษร้ายเขา เมื่อเป็นอยู่อย่างนี้ วงจรจะหมุนเวียนต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
  4. ปรมาตมัน : อาตมันสูงสุด หรออัตตาสูงสุด (บรมอาตมัน หรือ บรมอัตตา) เป็นสภาวะแท้จริง และเป็นจุดหมายสูงสุดตามหลักความเชื่อของศาสนาฮินดู (เดิมคือศาสนาพราหมณ์) ซึ่งถือว่า ในบุคคลแต่ละคนนี้ มีอาตมัน คือ อัตตาหรือตัวตน สิงสู่อยู่ครอง เป็นสภาวะเที่ยงแท้ถาวรเป็นผู้คิดผู้นึก ผู้เสวยเวทนา เป็นต้น ซึ่งเป็นส่วนย่อยที่แบ่งภาคออกมาจากปรมาตมันนั้นเอง เมื่อคนตาย อาตมันนี้ออกจากร่างไป สิงอยู่ในร่างอื่นต่อไป เหมือนถอดเสื้อผ้าเก่าสวมเสื้อผ้าใหม่ หรือออกจากเรือนเก่าไปอยู่ในเรือนใหม่ ได้เสวยสุขหรือทุกข์ เป็นต้น สุดแต่กรรมที่ได้ทำไว้ เวียนว่ายตายเกิดเรื่อยไป จนกว่าจะตระหนักรู้ว่าตนเองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับปรมาตมัน และเข้าถึงความบริสุทธิ์จากบาปโดยสิ้นเชิง จึงจะได้กลับเข้ารวมกับปรมาตมันดังเดิม ไม่เวียนตายเวียนเกิดอีกต่อไป, ปรมาตมันนี้ ก็คือ พรหม หรือ พรหมัน นั่นเอง
  5. ปาจิตตีย์ : แปลตามตัวอักษรว่า การละเมิดอันยังกุศลให้ตก, ชื่ออาบัติเบาเรียกลหุกาบัติ พ้นด้วยการแสดง; เป็นชื่อสิกขาบท ได้แก่ นิสสัคคิยปาจิตตีย์ ๓๐ และสุทธิกปาจิตตีย์ ซึ่งเรียกกันสั้นๆ ว่า ปาจิตตีย์ อีก ๙๒ ภิกษุล่วงละเมิดสิกขาบท ๑๒๒ ข้อเหล่านี้ย่อมต้องอาบัติปาจิตตีย์ เช่น ภิกษุพูดปด ฆ่าสัตว์ดิรัจฉาน ว่ายน้ำเล่น เป็นต้น ต้องอาบัติปาจิตตีย์ ดู อาบัติ
  6. Budhism Thai-Thai Dict : แหวกว่าย, more results...

ETipitaka Pali-Thai Dict : แหวกว่าย, more than 5 found, display 1-5
  1. วาย : ป., นป. ลม
  2. โคจร : (วิ.) เป็นที่เที่ยวไปแห่งอินทรีย์ วิ. คาโว อินฺทฺริยานิ จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร. เป็นที่เที่ยวไปราวกะว่าที่เป็นที่เที่ยวไปแห่งโค, เป็นที่เที่ยวไปแห่งโค. วิ. คาโว จรนฺติ เอตฺถาติ โคจโร. เที่ยวไป, ว่าย อุ. วาริโคจโร (ปลา) ว่ายในน้ำ. โคปุพฺโพ, จรฺ จรเณ, อ.
  3. กปฺปิก : ค. ผู้เป็นไปในกัลป์, ผู้เวียนว่ายอยู่ในวัฏฏะ
  4. กิเลสวฏฺฏ : (ปุ. นปุ.) วนคือกิเลส, กิเลสวัฏ. กิเลสเป็นเหตุให้สัตว์วนคือท่องเที่ยวหรือ เวียนว่ายตายเกิดในภพต่าง ๆ เพราะเมื่อ กิเลสเกิดขึ้นแล้วเป็นเหตุให้ทำกรรมเมื่อทำ กรรมแล้วจะต้องได้รับผลของกรรมนั้น เมื่อเสวยผลของกรรมอยู่ กิเลสก็เกิดขึ้น อีก วนกันไปอย่างนี้ กว่าพระอรหัตต- มรรคจะตัดให้ขาดลง. ธรรมปริจเฉทที่ ๒.
  5. ชาติสสาร : ป. การเวียนว่ายตายเกิด
  6. ETipitaka Pali-Thai Dict : แหวกว่าย, more results...

Pramaha Prasert Mantasevi's Thai-Pali Dict : แหวกว่าย, 7 found, display 1-7
  1. กระจาย, ฟุ้ง : อติวายติ [ก.]
  2. ธาตุลม : วาโย
  3. พายเรือ : นาวาย คจฺฉติ
  4. ลมพายุ : วายุ [ปุ.]
  5. แล่นเรือออกทะเล : นาวาย สมุทฺทํ ปกฺขนฺทติ
  6. ศาลเทพารักษ์ : เทวายตนํ
  7. อาศัยตามธรรมชาติ : อนฺวาย

(0.2205 sec)